จีนคลายกฎเหล็ก เลิกมาตรการลูกคนเดียว-ปิดค่ายแรงงาน

เอเจนซี--พรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวที่วิพากษ์วิจารณ์กันมานับสิบปี พร้อมประกาศเลิก “ค่ายแรงงาน” อบรมการศึกษาใหม่ อันลือลั่นในวงการละเมิดสิทธิมนุษย์ชน

ที่ประชุมเต็มคณะแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 ครั้งที่ 3 ที่ปิดการประชุมฯไปเมื่อวันอังคาร(12 พ.ย.) ที่แล้ว ได้ไฟเขียวผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียว โดยอนุญาตให้คู่สามี-ภรรยา มีลูกสองคน ภายใต้เงื่อนไขที่สามีหรือภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นลูกคนเดียว อันเป็นก้าวแรกในการคลายกฎเหล็กที่ดำเนินมาแต่ปลายทศวรรษที่ 1970 และได้ส่งผลกระทบรุนแรงที่สำคัญ ได้แก่ สัดส่วนประชากร และการละเมิดมนุษย์ชน

การละเมิดทำแท้งในจีนตกเป็นข่าวใหญ่บ่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่หน่วยวางแผนครอบครัวได้อ้างมาตรการลูกคนเดียวที่กำหนดให้ต้องมีอนุญาตการคลอดบุตร ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับสินไหม บางกรณีเจ้าหน้าที่บังคับทำแท้งหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดอย่างโหดเหี้ยม กลายเป็นข่าวใหญ่ช็อกสังคมจีน

นอกจากนี้พ่อแม่ชาวจีนที่มักนิยมลูกชาย ยังมักตรวจเพศทารกในครรภ์ เพื่อเลือกเพศลูก และเกิดกรณีทำแท้งทารกเพศหญิงมากมาย ทำให้เกิดความไม่สมดุลในอัตราเพศชาย-หญิงในสังคมจีนที่นิยมลูกชาย โดยมีอัตราการเกิดเด็กชาย-หญิง เท่ากับ 5:6

บรรดาหน่วยงานสถิติยังได้เตือนในปีนี้ ว่าช่วง2-3 ปีนี้ กลุ่มประชากรวัยทำงานเริ่มหดตัวลง ลดลงไปถึง 3.45 ล้านคน เท่ากับ 937 ล้านคนในปีที่แล้ว 2555

สำนักข่าวซินหวา กระบอกเสียงเอกของรัฐ ระบุการผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวจะดำเนินอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไป เพื่อสร้างการพัฒนาด้านประประชากรที่สมดุลในระยะยาว

ทั้งนี้นโยบายบายลูกคนเดียวที่ดำเนินมากว่า 30 ปี ได้กำหนดให้ครอบครัวจีนเกือบทั้งหมด มีลูกได้คนเดียว ยกเว้นครอบครัวในชนบทบางกลุ่มที่มีลูกคนแรกเป็นผู้หญิง ชนชาติส่วนน้อย และครอบครัวที่ทั้งพ่อแม่เป็นลูกคนเดียว สำหรับการผ่อนปรนนี้ อนุญาตให้พ่อหรือแม่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นลูกคนเดียว มีลูกได้สองคน

โจอัน คูฟ์แมน (Joan Kaufman) ผู้อำนวยการโคลัมเบีย โกลบอล เซนเตอร์ ในกรุงปักกิ่ง และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ชี้การผ่อนปรนฯนี้ เป็นความเคลื่อนไหว “ที่ช้ามาก” ในการขจัดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการดูแลกลุ่มประชากรวัยชรา

“ตอนนี้ ไม่มีความวิตกเกี่ยวกับปัญหาประชากรล้นเกิน คู่สามีภรรยามีลูกกันน้อยไป ซึ่งไม่สามารถทดแทนพวกเขาได้ ” คูฟ์แมน กล่าว พร้อมชี้ว่า อัตราทดแทนประชากรจีน เท่ากับ 2:1

เลิก “ค่ายแรงงาน จอมโหด”
พร้อมกันนี้ ผู้นำจีนได้ตัดสินการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์คือ ยกเลิกระบบ “ค่ายแรงงาน เพื่ออบรมการศึกษาใหม่” ระบบฯนี้เปิดทางให้ตำรวจจับกุมและตัดสินโทษผู้ถูกกล่าวหากระทำผิด คุมขังไว้ในค่ายแรงงานนานถึง 4 ปี โดยไม่ผ่านกระบวนการไต่สวนจากระบบศาลยุติธรรม

ซินหวาชี้ว่า การยกเลิกค่ายแรงงาน เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงสิทธิมนุษย์ชนและกระบวนการศาลยุติธรรม ซึ่งจะรวมทั้งการลดจำนวนกรณีอาชญากรรม ที่จะถูกตัดสินโทษประหารชีวิต

สำหรับระบบค่ายแรงงานนี้ จัดตั้งขึ้นปี 2500 เป็นระบบจัดการลงโทษกลุ่มผู้กระทำผิดเล็กน้อย แต่ได้ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ด้านละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เป็นเครื่องมือในการจับกุม “กลุ่มที่มาร้องทุกข์” ที่กล่าวโทษและร้องเรียนเจ้าหน้าที่ระดับสูง โดยกรณีล่าสุด ที่เป็นข่าวฮือฮาทั้งในสื่อจีนและเทศ คือ กรณีแม่ถัง ฮุ่ยในมณฑลหูหนัน โดนจับเข้าค่ายแรงงาน หลังจากที่เธอเพียรพยายามร้องทุกข์ครั้งเล่าครั้งเล่า กรณีลูกสาววัย 11 ขวบ ถูกเจ้าหน้าที่รัฐลักพาตัวไปเป็นโสเภณี

ข้อมูลสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ปี 2552 ประมาณจำนวน “นักโทษ” ค่ายแรงงานจีน เท่ากับ 190,000 คน

ทั้งนี้ การประชุมเต็มคณะแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 ครั้งที่ 3 ที่เรียกย่อๆคือ การประชุมเต็มคณะคณะที่สาม (Third Plenum) การประชุมนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ในการประกาศชุดปฏิรูปหลัก ที่ชี้ชะตาอนาคตของประเทศ “การประชุมเต็มคณะครั้งที่สาม” จะจัดขึ้นหลังจากที่กลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ขึ้นครองอำนาจแล้วหนึ่งปี

“การประชุมเต็มคณะครั้งที่สาม” ปี 1978 (2521) ยุคผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง ประกาศการปฏิรูปเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน ที่สร้างการเจริญเติบโตเศรษฐกิจแบบมหัศจรรย์และก่อการเปลี่ยนถ่ายระบบเศรษฐกิจจีนพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมตามมา “การประชุมเต็มคณะครั้งที่สาม” ของรุ่นผู้นำที่ห้าของสี จิ้นผิง ที่รับมอบอำนาจในเดือนพ.ย.ปี 2555 ดำเนินการประชุมระหว่างวันที่ 9-12 พ.ย. 2556 และได้ตัดสินชุดการปฏิรูปใหญ่ ที่เป็นการปฏิรูประบบตลาดอย่างรอบด้าน ที่ส่งสัญญาณว่าผู้นำจีนจะคลายมือเหล็กจากระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของโลกแล้ว และจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างฯเพื่อรักษาการเติบโตที่ยั่งยืน

ผู้นำจีนกล่าวว่าการปฏิรูปรอบด้านนี้ จะออกดอกกกอกผลเต็มที่ภายในปี 2563.