เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - สำนักข่าวซินหวาของรัฐบาลจีนจัดหนักตอบโต้กูเกิ้ล หลังจากบิ๊กบอสบังอาจเรียกร้องเสรีภาพอินเทอร์เน็ตแดนมังกร
สืบเนื่องจากการแสดงความเห็นของนายเอริก ชมิดต์ ประธานผู้บริหารบริษัทกูเกิ้ลระหว่างอยู่ในฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กูเกิ้ลไม่รีบร้อนกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ จนกว่าจีนจะผ่อนคลายกฎระเบียบการเซ็นเซอร์นั้น ไม่รอดพ้นจากการถูกสับเละจากบทบรรณาธิการของสำนักข่าวซินหวา ที่โต้ว่า เชิญอยู่นอกประเทศจีนต่อไป ถ้าท่านต้องการ พร้อมกับกล่าวหาว่า ในแง่หลักจรรยาบรรณแล้ว กูเกิ้ลไม่อยู่ในฐานะจะมาเรียกร้องดังกล่าว เพราะบริษัทเทคโนโลยียักษใหญ่ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในเมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนียรายนี้ร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการสอดแนมข้อมูลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต จากรายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่ระบุว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ เอ็นเอสเอ ของสหรัฐฯ ลอบเจาะเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเชื่อมกับศูนย์ข้อมูลของกูเกิ้ลและยาฮู ในทั่วโลก โดยนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างสัญญาของเอ็นเอสเอเป็นผู้ออกมาแฉ
“ ข้อกล่าวหาระบบเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตจีนของกูเกิ้ลช่างเป็นเรื่องที่เสแสร้งมารยาอย่างที่สุด” บทบรรณาธิการของซินหวาระบุ
“ช่างมันเถอะ ถ้ากูเกิ้ลผู้ตีสองหน้าไม่ต้องการกลับมาตลาดบนแผ่นดินใหญ่ของจีน”
บริษัทกูเกิ้ลได้ย้ายบริการสืบค้นข้อมูลภาคภาษาจีนจากแผ่นดินใหญ่มายังเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเมื่อปี 2553 หลังจากไม่อาจขัดขวางกฎระเบียบในการเซ็นเซอร์ผลการสืบค้นข้อมูลของทางการจีนได้
“กฎเกณฑ์เซ็นเซอร์ของจีนเลวร้ายกว่าเดิมอย่างมาก นับตั้งแต่เราออกมา ฉะนั้น บางอย่างต้องเปลี่ยนแปลง ก่อนเราจะกลับมา” ชมิดต์กล่าวกับเดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัลเมื่อวันอาทิตย์ (3 พ.ย.)
ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ นายชมิดต์ยังแสดงความเป็นห่วงที่จีนออกกฎหมายห้ามรีโพสต์ข้อมูล ที่ถือเป็นการหมิ่นประมาทเกิน 500 ครั้ง หรือมีการเข้าอ่านเกินกว่า 5,000 ครั้ง โดยผู้ฝ่าฝืนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หากต้องการให้ประเทศเจริญเติบโตต่อไป
หลังจากบทบรรณาธิการของซินหวาเผยแพร่ ด้านโฆษกของกูเกิ้ลในฮ่องกงระบุว่า ทางบริษัทไม่มีความเห็นเกี่ยวกับบทวิจารณ์ของซินหวาแต่อย่างใด