เอเอฟพี - ประธานคณะกรรมการข่าวกรองแห่งสภาคองเกรสชี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ควรมีเมตตาลดหย่อนโทษต่อเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ซึ่งนำความลับเกี่ยวกับโครงการสอดแนมของอเมริกาไปเปิดโปงจนเป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง วานนี้ (3)
ประธานคณะกรรมการข่าวกรองแห่งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร มีถ้อยแถลงดังกล่าวเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่ ส.ส.เยอรมนี ได้นำจากสโนว์เดนมาเผยแพร่ และยืนยันว่าอดีตนักวิเคราะห์ข้อมูลของเอ็นเอสเอผู้นี้พร้อมจะให้การต่อคองเกรสเกี่ยวกับ “การกระทำผิดครั้งใหญ่” ของรัฐบาลสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี ส.ว.ไดแอนน์ เฟนสไตน์ ประธานคณะกรรมการข่าวกรองแห่งวุฒิสภา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Face the Nation ว่าสโนว์เดนพลาดโอกาสที่จะทำเช่นนั้นไปแล้ว
“เขาเคยมีโอกาสที่จะทำเช่นนั้น หากว่าเขาเป็นผู้เปิดเผยความจริง (whistleblower) เขาก็ควรจะกดโทรศัพท์ถึงคณะกรรมการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการข่าวกรองแห่งวุฒิสภา และบอกเราว่า ผมมีข้อมูลบางอย่างที่พวกคุณควรต้องทราบ”
“หลังจากนั้นเราจะได้พบเขาเพื่อรับทราบข้อมูลดังกล่าว แต่สิ่งที่พูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้น และ สโนว์เดน ก็ได้ทำสิ่งที่เป็นภัยร้ายแรงต่อชาติบ้านเมือง”
“ดิฉันคิดว่ารัฐบาลไม่ควรลดหย่อนโทษใดๆ ทั้งสิ้นต่อเขา” เฟนสไตน์ระบุ
รัสเซียอนุญาตให้ สโนว์เดน ลี้ภัยอยู่ในประเทศได้เป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางความขุ่นเคืองของสหรัฐฯที่ต้องการนำตัวอดีตพนักงานจอมแฉผู้นี้กลับมาดำเนินคดีในข้อหาจารกรรม
ด้าน ส.ส.ไมค์ โรเจอร์ส ประธานคณะกรรมการข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ก็กล่าวทำนองเดียวกันว่า ไม่มีเหตุผลที่จะยกฟ้อง สโนว์เดน ไม่ว่าในข้อหาใดๆ ก็ตาม
“ถ้าเขาต้องการกลับมาสหรัฐฯ และจะยอมรับผิดที่ได้จารกรรมข้อมูลลับ, ทำผิดสัตยาบันที่ให้ไว้ และเปิดเผยความลับของรัฐบาล ผมก็ยินดีที่จะคุยกับเขาเรื่องนี้... แต่ถ้าเขาจะไม่ยอมรับในสิ่งที่ทำ และจะมานั่งอธิบายเหตุผลว่าทำลงไปเพื่ออะไรนั้น คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม และไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมอีกต่อไป”
ฮานส์-คริสเตียน สโตรเบล ส.ส.เยอรมันจากพรรคกรีน ได้เดินทางไปพบ สโนว์เดน ที่กรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (31) เพื่อหารือเรื่องที่วอชิงตันแอบดักฟังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนายกฯ แมร์เคิล ซึ่งถือเป็นกรณีอื้อฉาวที่กำลังบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับอเมริกา
ในจดหมายที่ชื่อว่า “manifesto for the truth” ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารข่าว แดร์ชปีเกล ของ เยอรมนี สโนว์เดน ระบุว่า ปฏิบัติการสอดแนมอย่างเป็นระบบของสหรัฐฯ เป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพในการแสดงออกและสังคมที่เปิดกว้าง และเป็นปัญหาระดับโลกที่ทั่วโลกต้องร่วมกันแก้ไข
สโนว์เดน วัย 30 ปี ยังยินดีที่จะมอบรายละเอียดโครงการสอดแนมต่อรัฐบาลเยอรมนี และรู้สึก “มีกำลังใจ” เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองจากทั่วโลก แม้ตัวเขาเองจะถูกสหรัฐฯ ตามกดดันไม่เลิกก็ตาม