เอพี/เอเอฟพี - เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงโปรแกรมลับสุดยอดของสหรัฐฯ ระบุในหนังสือที่เผยแพร่โดยส.ส.เยอรมนีที่ได้พบปะกันเป็นการส่วนตัวในกรุงมอสโกเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) เรียกร้องนานาชาติช่วยกดดันสหรัฐฯให้ถอนข้อหาจารกรรม และเมื่อนั้นก็พร้อมเข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรส ข้อเสนอที่แทบเป็นไปไม่ได้เนื่องจากรัฐบาลอเมริกาไม่มีทีท่าขานรับแม้แต่น้อย
นายฮานส์-คริสเตียน สโตรเบเล ส.ส.จากพรรรคกรีนส์ พรรคฝ่ายค้านของเยอรมนี แถลงกับผู้สื่อข่าวอ้างนายสโนว์เดนบอกว่าอยากเข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการสอดแนมของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) และมีความตั้งใจช่วยเจ้าหน้าที่เยอรมนีสืบสวนคำกล่าวอ้างถูกอเมริกาสอดแนมด้วย อย่างไรก็ตามในหนังสือที่ได้รับมอบมานั้น นายสโนว์เดนบ่งชี้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าวอชิงตันจะถอนข้อหาจารกรรม การเปลี่ยนแปลงทางนโยบายซึ่งรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่มีวี่แววที่จะทำแบบนั้น
รายงานข่าวเกี่ยวกับการสอดแนมเหล่าผู้นำโลกและชาติพันธมิตรของเอ็นเอสเอได้ก่อความขุ่นเคืองทั่วยุโรปในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้ สโนว์เดน บอกว่าเขาไม่เหลือเอกสารต่างๆ ของเอ็นเอสเออีกแล้ว แต่การรู้เห็นความพยายามดักฟังโทรศัพท์ของสหรัฐฯ กลายเป็นสิ่งมีค่าของชาติอื่นๆ ที่กำลังไล่ตามข้อมูลเหล่านั้น
ในหนังสือที่มีการโพสต์สำเนาลงบนเว็บไซต์ของนายสโตรเบเล ด้วยนั้น นายสโนว์เดนบอกด้วยว่าเขาพร้อมให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสอดแนมของสหรัฐฯแก่เยอรมนีและรู้สึกตื่นตันใจต่อปฏิกิริยาตอบสนองในทางบวกจากทั่วโลกต่อการเปิดโปงของเขาแม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากอเมริกาอย่างไม่ลดละก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อนาโตลี คูเชรีนา ทนายความชาวรัสเซียของสโนว์เดน บอกว่าลูกความของตนเองคงไม่สามารถเดินทางไปยังเยอรมนีด้วยตนเอง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ก็มีความตั้งใจที่จะช่วยการสืบสวน “สโนว์เดน จะไม่เดินทางไปเยอรมนี มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ข้ามพรมแดนรัสเซีย ถ้าเขาทำแบบนั้น เขาก็จะสูญเสียสถานะลี้ภัยชั่วคราว กระนั้นภายใต้กรอบข้อตกลงนานาชาติ เขาสามารถให้การในรัสเซีย แต่เรื่องนี้ก็จะเป็นการตัดสินใจของเยอรมนีเอง”
นายสโตรเบเล ยังย้ำระหว่างแถลงข่าวที่กรุงเบอร์ลิน หลังกลับจากพบปะกับนายสโนว์เดน ด้วยว่าชายชาวอเมริการายนี้แสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งว่าต้องการเข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรส “อย่างแรกที่เขาอยากทำคือวางข้อเท็จจริงลงบนโต๊ะต่อหน้าสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต่อหน้าเหล่าคณะกรรมาธิการและชี้แจงเรื่องราวต่างๆ มิสเตอร์สโนว์เดน แสดงให้ผมเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้เป็นพวกต่อต้านอเมริกา หรือเป็นข้าศึกของสหรัฐฯ และแค่เห็นต่างเท่านั้น”
อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอ ซึ่งเพิ่งเริ่มทำงานที่บริษัทอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่งของรัสเซียในวันศุกร์ (1 พ.ย.) ได้รับอนุมัติคำขอลี้ภัยในรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงโกรธเคืองของสหรัฐฯ ที่ต้องการนำตัวเข้าไปดำเนินคดีตามข้อหาจารกรรม ขณะที่รายงานข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับโปรแกรมสอดแนมสหรัฐฯที่อ้างข้อมูลซึ่งแฉโดยนายสโนว์เดน ในนั้นรวมถึงการดักฟังเหล่าผู้นำต่างชาติกว่า 30 ประเทศ ได้กัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและชาติพันธมิตรเป็นอย่างมาก
