เอเจนซี - มณฑลและพื้นที่ทางภาคใต้ของจีนต้องเผชิญกับฝนตกหนักและกระแสลมแรง อันเป็นผลมาจากซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” ที่พัดผ่านเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย ประชาชนนับแสนเดือดร้อน ทางการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจหลายร้อยล้านดอลลาร์ ขณะที่รัฐบาลประกาศให้เงินช่วยเหลือฟิลิปปินส์ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางคำถามจากชาวเน็ตฯ ว่า “จะช่วยทำไม?”
รายงานข่าว (12 พ.ย.) กล่าวว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ไห่เยี่ยน” ที่ถล่มฟิลิปปินส์ เมื่อวันศุกร์ (8 พ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นมหาพายุรุนแรงที่สุดลูกหนึ่งของโลก แม้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อมันพัดถึงแผ่นดินทางตอนใต้ของจีนวานนี้ ทว่าด้วยแรงลมที่สูงกว่า 100 กม./ชม. และปริมาณน้ำฝนมหาศาลก็ได้สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวจีนเป็นจำนวนมาก
จุดศูนย์กลางของพายุไห่เยี่ยนได้เคลื่อนผ่านเมืองหนันหนิง เขตปกครองตนเองก่วงซี ชนชาติจ้วง ในช่วงเช้าของวันจันทร์ (11 พ.ย.) โดยหอบเอากระแสลมความเร็วมากกว่า 118 กม./ชม. และปริมาณน้ำฝนเกิน 38 ซม.มายังพื้นที่ ก่อนจะพัดผ่านไปทางตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 15 กม./ชม.
ในวันเดียวกันทางการเขตฯ ก่วงซีได้ประกาศเตือนภัยสภาพอากาศระดับสูงสุด (สีแดง) ตักเตือนประชาชนให้ระมัดระวังกระแสลมแรงและฝนตกหนัก รวมถึงสั่งปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษาในเมืองเป๋ยไห่, ฟังเฉิง และฉินโจวเป็นการชั่วคราว นอกจากนั้น สำนักจัดการน้ำท้องถิ่นรายงานเสริมว่า พบประชาชนเสียชีวิต 1 ราย และสูญหายกลางแม่น้ำ 4 ราย ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเฉิน อู๋ รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมอุทกภัย มณฑลไห่หนัน เผยว่า แม้ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนจะอ่อนกำลังลงเมื่อพัดมาถึงจีน แต่ก็ได้คร่าชีวิตพลเมืองท้องถิ่นไปแล้วหลายราย และทำลายเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่เจ้าหน้าที่สมุทรศาสตร์ท้องถิ่น รายงานเหตุเรือขนส่งสินค้าซึ่งมีลูกเรืออยู่ 7 คน จมลงกลางทะเล โดยทีมกู้ภัยได้นำเรือเร็วและเฮลิคอปเตอร์ออกค้นหาผู้รอดชีวิตได้ 3 คน ขณะที่อีก 4 รายยังคงสูญหาย
ทั้งนี้ ล่าสุดทางการมณฑลไห่หนันได้ยืนยันยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย โดย 2 รายเสียชีวิตจากการถูกวัตถุขนาดใหญ่ล้มทับ ขณะที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติจีน เผยว่า พายุลูกดังกล่าวได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้วอย่างน้อย 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากมันได้พัดทำลายพื้นที่เกษตรกรรม การปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมประมงท้องถิ่นเป็นวงกว้าง
ทางด้านกระทรวงกิจการพลเรือนของจีน ระบุว่า บ้านเรือนเกือบ 600 หลังในมณฑลไห่หนัน ได้รับความเสียหาย โดย 51 หลังพังทลายลงเนื่องจากไม่สามารถต้านทานกระแสลมและฝนตกหนักได้ โดยพลเมืองกว่า 39,000 คน ต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ส่วน Hainan Power Grid สถานีแจกจ่ายพลังงานท้องถิ่นต้องปิดบริการในวันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 427,000 คน โดยจนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา ประชาชนกว่า 131,600 ราย ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้งาน
จีนเสนอเงินช่วยเหลือฟิลิปปินส์ 100,000 ดอลลาร์ ทว่าชาวเน็ตฯ ถาม “ทำไมต้องช่วยคนที่ไม่เคยเป็นมิตรกับเราเลย”
นายฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงวานนี้ (11 พ.ย.) ว่า รัฐบาลจีนจะจัดส่งเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ฟิลิปปินส์ แต่ว่าจะไม่ครอบคลุมถึงทีมเจ้าหน้าที่หรือหน่วยกู้ภัย โดยนายฉินระบุ รัฐบาลจะดำเนินการช่วยเหลืออื่นๆ หลังจากได้ปรึกษาหารือกับรัฐบาลฟิลิปปินส์และเอเจนซีบรรเทาสาธารณภัย
อนึ่ง การให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลจีนครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำสถานการณ์ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศซึ่งยังรักษาระดับที่ดีไว้ได้ แม้ว่าจะมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้อยู่ก็ตาม
“เนื่องจากความสัมพันธ์ของจีนกับฟิลิปปินส์ยังคงมีความมึนตึงกันอยู่ การช่วยเหลือของรัฐบาลจีนที่มากเกินไป อาจจุดกระแสความไม่พอใจในหมู่ประชาชนจีนผู้รักชาติขึ้นมาได้” ตู้ จี้เฟิง นักวิเคราะห์กิจการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักวิชาสังคมศาสตร์แห่งชาติจีน แสดงความเห็น
อย่างไรก็ดี หลังจากข่าวการให้เงินช่วยเหลือของรัฐบาลจีนแพร่สะพัดออกไปก็ก่อเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากบนโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “จีนไม่ควรให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้นแก่ฟิลิปปินส์”
“รัฐบาลจีนไม่ควรให้ความช่วยเหลือใดๆ ให้กับประเทศที่ไม่เคยคิดมีความเป็นมิตรหรือให้เกียรติจีนแม้แต่น้อย” ชาวเน็ตฯ รายหนึ่งกล่าวผ่านเวยปั๋ว เว็บไมโครบล็อค (คล้ายทวิตเตอร์) ของจีน
“จีนยังมีพื้นที่ที่ไม่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นอีกตั้งเยอะ เอาเงินไปช่วยตรงนั้นยังจะดีกว่า”
“เด็กๆ ชาวจีนจำนวนมหาศาลที่ยังหิวโหย ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะสวมใส่ ... ทำไมรัฐบาลถึงแสร้งทำเป็นคนดีกับคนอื่น แต่กลับตาบอดตาใสใส่ประชาชนของตัวเองแบบนี้” อีกหนึ่งความเห็นที่ปรากฏบนเว็บไซต์โกลบอล ไทมส์ กระบอกเสียงสำคัญของทางการจีน