จีนเฮ! นักวิจัยคิดค้น ‘วัคซีนต้านหวัดนก’ สำเร็จ

ซินหวา - กลุ่มนักวิจัยจีนแจ้งข่าวดี คิดค้น “วัคซีน” ป้องกันโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ หรือเอช7เอ็น9 (H7N9) ได้เป็นผลสำเร็จ ตั้งรับสถานการณ์แพร่ระบาดที่อาจย้อนกลับมาเล่นงานพลเมืองแดนมังกรช่วงหน้าหนาวนี้

สื่อทางการจีนอ้าง (26 ต.ค.) การแถลงข่าวของคณะนักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ของจีน ณ เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประกาศความสำเร็จในการคิดค้นและพัฒนา “วัคซีน” ป้องกันโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ หรือเอช7เอ็น9 (H7N9) ซึ่งแพร่ระบาดในจีนมาตั้งแต่ต้นปีจนมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 130 คน และเสียชีวิตนับสิบราย

โครงการวิจัยดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่างองค์กรทางการแพทย์หลายแห่ง อันได้แก่ โรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง, มหาวิทยาลัยฮ่องกง, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติ, สถาบันควบคุมอาหารและยาแห่งชาติ และสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งชาติจีน

หลี่ หลันจวน ผู้นำทีมวิจัย ระบุว่า นักวิจัยได้ทดลองสร้างพันธุวิศวกรรมและศึกษาการกลายพันธุ์ของไวรัส H7N9 ผ่านตัวอย่างเชื้อที่คัดแยกจากน้ำเหลืองในช่องคอของผู้ป่วย เมื่อวันที่ 3 เม.ย. อันเป็นหนึ่งในกระบวนการสร้างวัคซีนต้นแบบที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกให้การยอมรับ จากนั้นจึงนำวัคซีนที่ได้ไปทดสอบกับตัวอ่อนของไข่ไก่ และพบว่ามันมีความปลอดภัย

นอกจากนี้ วัคซีนต้นแบบยังได้ใช้ทดลองกับตัวเฟอร์เร็ท (Ferret) ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีระบบการทำงานของร่างกายคล้ายคลึงมนุษย์ ภายใต้การกำกับดูแลจากสถาบันสัตว์ทดลองของสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งชาติจีน รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องทางเภสัชศาสตร์จากเจ้าหน้าที่ด้านยาและเวชภัณฑ์ของจีนอีกด้วย

ซู เย่ว์หลง ผอ.ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ และศูนย์ความร่วมมือเพื่อวิจัยและอ้างอิงโรคขององค์การอนามัยโลกประจำประเทศจีน เผยว่า “วัคซีนดังกล่าวซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์จีน จะช่วยให้เรารับมือและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้ง”

ทั้งนี้ ในวันเดียวกันกับการแถลงข่าว บริษัทยาและเวชภัณฑ์ชื่อดังอย่าง Tianyuan Bio-Pharmaceutical Co.,Ltd ยังได้สนใจเสนอตัวเป็นผู้ผลิตวัคซีนตัวใหม่นี้ให้กับทางการ แม้ว่าสถานการณ์โรคในปัจจุบันจะยังไม่ถึงขั้นต้องมีการแจกจ่ายวัคซีนก็ตาม

อนึ่ง จากรายงานสถิติของคณะกรรมการวางแผนครอบครัวและสุขภาพแห่งชาติ (NFHPC) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อจนถึงขณะนี้หยุดอยู่ที่ 136 คน และเสียชีวิต 45 ราย โดยคิดเป็นร้อยละ 33.1 จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่เริ่มตรวจพบมาตั้งแต่เดือน มี.ค.

อย่างไรก็ดี หลิว เติงเฟิง รองผู้อำนวยการแผนกวิทยาศาสตร์และการศึกษาของ NHFPC ได้เตือนว่า เนื่องจากสภาพอากาศทั่วประเทศเริ่มมีอุณหภูมิลดต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้การแพร่ระบาดย้อนกลับมาเล่นงานชาวจีนได้อีกครั้ง โดยเฉพาะกรณีผู้ติดเชื้อ 2 รายล่าสุด เมื่อวันที่ 15 และ 23 ต.ค. ที่ผ่านมาในมณฑลเจ้อเจียง หลังห่างหายไปกว่า 2 เดือน

“ความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนครั้งนี้ น่าจะช่วยให้เรามีอาวุธชิ้นใหม่ไปใช้ต่อกรและเอาชนะในสงครามโรคภัยไข้เจ็บที่ยาวนานนี้ได้เสียที”