xs
xsm
sm
md
lg

จีนเล็งเปิดให้เล่นเฟซบุ๊ก ... เฉพาะเขตการค้าเสรีแห่งใหม่เท่านั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชายชาวจีนถือเครื่องแท็บเล็ตที่แสดงภาพแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กอยู่ภายในอาคารที่พัก ใจกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ (ภาพ - รอยเตอร์ส)
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - สื่อท้องถิ่นฮ่องกงเผย จีนเตรียมยกเลิกการปิดกั้นกลุ่มเว็บไซต์ต่างชาติที่รัฐบาลพิจารณาว่ามีความอ่อนไหวทางการเมือง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และ เว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส ในเขตการค้าเสรีแห่งใหม่ล่าสุดในเซี่ยงไฮ้ เพื่ออำนวยความสะดวกและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ (25 ก.ย.) อ้างคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้รายหนึ่งที่มิได้เปิดเผยนามว่า ทางการจีนกำลังพิจารณาเปิดกว้างให้กลุ่มบริษัทเว็บไซต์ต่างประเทศ ที่จีนบล็อกเนื่องมาจากเหตุผลด้านความมั่นคงทางสังคม ยื่นประมูลใบอนุญาตเปิดบริการอินเทอร์เน็ตในเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้  ซึ่งรวมถึงเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์คชื่อก้องโลกอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ทวิตเตอร์ (Twitter) และสำเดอะ นิวยอร์ค ไทมส์ (The New York Times)

ทว่า การยกเลิกฯดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เฉพาะภายในเขตการค้าเสรีแห่งเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ที่คณะมุขมนตรี หรือคณะรัฐบาลจีนได้ทำการอนุมัติจัดตั้งเมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค. และจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ (29 ก.ย.) นี้

เจ้าหน้าที่คนเดิมระบุอีกว่า บริษัทผู้ประกอบการด้านสื่อสารโทรคมนาคมต่างชาติ จะได้รับการสนับสนุนให้เข้ามาลงทุนทำธุรกิจภายในเขตการค้าเสรีแห่งใหม่นี้มากขึ้น โดยยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารโทรคมนาคมของจีน 3 แห่ง อันได้แก่ ไชน่า โมบาย (China Mobile) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ที่ล้วนเป็นวิสาหกิจรัฐ ต่างได้รับแจ้งแล้วว่ารัฐบาลไฟเขียวกลุ่มบริษัทต่างชาติเข้ามาแข่งขันทางธุรกิจ

“เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาทำธุรกิจในจีนมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ เราคิดว่าควรทำให้สภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวันของพวกเขาเหมือนกับอยู่ที่บ้านมากที่สุด ซึ่งการปิดกั้นเฟซบุ๊กหรือข่าวสารจากเดอะ นิวยอร์ค ไทมส์ อาจทำให้พวกเขารู้สึกเชิงลบว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่นี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ในจีนเท่าไรนัก”

จีนได้บล็อกเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ อย่าง เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ มาตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากรัฐบาลจีนพิจารณาว่าการเปิดกว้างรับสื่อสังคมออนไลน์โลกมีความอ่อนไหวทางการเมืองและอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เครือข่ายสังคมออนไลน์เหล่านี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรวดเร็ว หรือ การปฏิวัติดอกมะลิในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่โค่นล้มรัฐบาลเผด็จการ  เมื่อปีที่แล้ว(2555)รัฐบาลจีนยังได้บล็อกเว็บไซต์ข่าวของเดอะ นิวยอร์ค ไทมส์ สืบเนื่องจากกรณีการนำเสนอรายงานข่าวที่กล่าวหาครอบครัวของอดีตนายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า มั่งคั่งผิดปกติจากการลงทุนลับๆที่อาจมีการรับสินบนด้วย

อย่างไรก็ดี บรรดานายใหญ่เว็ปไซต์ที่ถูกบล็อก ต่างพยายามเจรจาอย่างลับๆ กับรัฐบาลจีนมานานหลายปี เพื่อจะได้เข้ามาชิงเค้กในตลาดที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก โดยไม่นานมานี้ มีรายงานข่าวเผยว่า นาง Sheryl Sandberg ผู้บริหารระดับสูงของเฟสบุ๊คได้เข้าพบนายไฉ หมิงเจ้า หัวหน้าสำนักงานสารสนเทศคณะมุขมนตรีจีน อย่างไรก็ตามทางเฟซบุ๊กกล่าวว่า การพบปะพูดคุยดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของนาง Sandberg เท่านั้น

อนึ่ง แม้ปัจจุบันจีนจะก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจลำดับที่สองของโลก แต่รัฐบาลก็ยังคงนโยบายควบคุมสื่อประเภทต่างๆ อย่างเข้มงวดต่อไป โดยเฉพาะโลกไซเบอร์ที่พึ่งพาโปรแกรมกำแพงไฟ (Great Firewall หรือชื่อทางการคือ the Golden Shield) ซึ่งดูแลโดยกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์จีน

ทำให้ชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินทางมาทำงาน ศึกษาเล่าเรียน หรือท่องเที่ยว พากันติเตียนถึงความยากลำบากในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่พวกเขาใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะแม้แต่เว็บเสิร์ชเอนจิ้นที่ใช้ค้นหาข้อมูลอันดับหนึ่งของโลกอย่างกูเกิ้ล ก็ยังไม่สามารถใช้งานบนจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างน่าประหลาดใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น