เอเจนซี/รอยเตอร์ส - ทางการจีนรวบตัวชายวัยรุ่นหลังคึกคะนองแพร่ข่าวลือมั่วซั่วเกี่ยวโยงเหตุความไม่สงบครั้งล่าสุดในซินเจียงลงบนโลกออนไลน์ รับสารภาพ “ทำไปเพราะอยากดึงดูดความสนใจและยุยงให้เกิดความโกรธแค้นชิงชัง”
สำนักข่าวซินหวาอ้าง (11 ส.ค.) เว็บไซต์เทียนซาน (tianshan.net) ของรัฐบาลท้องถิ่นซินเจียง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชายผู้ต้องสงสัย อายุ 22 ปี ที่มีชื่อในสำเนียงภาษาของชาวอุยกูร์ ด้วยความผิดฐานเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือน ก.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 คน บนโลกอินเทอร์เน็ต
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ชายคนดังกล่าวได้ใช้ช่องทางหลีกเลี่ยงระบบเซ็นเซอร์โลกออนไลน์ของทางการจีน หรือที่เรียกกันว่า “กำแพงไฟ” (Great Firewall) เพื่อเข้าไปโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จบนหน้าเว็บไซต์ต่างประเทศที่ถือเป็น “กำลังศัตรูต่างชาติ” ส่งผลกระทบและความเสียหายอย่างมาก
“ผู้กระทำผิดได้สร้างและแพร่กระจายข้อมูลรายละเอียดที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง นำมาซึ่งการก่อกระตุ้นความเกลียดชังทางชาติพันธุ์อย่างร้ายกาจยิ่งขึ้น” โดยเว็บฯ เทียนซานเสริมว่า ข้อมูลเหล่านั้นยังรวมถึงภาพกราฟิคจำลองภาพการใช้กำลังรุนแรงชองเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนอีกด้วย
ด้านชายผู้ต้องสงสัยต่อมาได้รับสารภาพและเผยว่า “ผมไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่เขียนออกไปนั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก ผมแค่ต้องการดึงดูดความสนใจจากผู้คน และแผ่อิทธิพลต่อความคิดอ่านของสาธารณชนเท่านั้น” โดยเขาเล่าว่าทราบข่าวในวันที่ 29 ก.ค. ผ่านรายการสถานีวิทยุเรดิโอ ฟรี เอเชีย (Radio Free Asia) จึงเข้าเว็บฯ ต่างประเทศและเริ่มปั้นแต่งข่าวลือเนื่องจากไม่มีข้อมูลที่ละเอียด
ล่วงเลยถึงเช้าวันต่อมาเขาคิดว่า “ข่าว” ที่เขาเขียนนั้นยังไม่เลวร้ายเพียงพอ ไม่สามารถดึงดูดความสนใจหรือสร้างความขุ่นเคืองใจได้ จึงเพิ่มเติมข้อมูล รูปภาพ หวังให้มันดูสมจริงมากขึ้นกว่าเดิมก่อนจะโพสต์ซ้ำอีกครั้ง
ทั้งนี้ รายงานข่าวเหตุความไม่สงบครั้งล่าสุดในเขตปกครองตนเองซินเจียง ชนชาติอุยกูร์ อย่างเป็นทางการ ระบุว่า กลุ่มคนร้ายได้บุกโจมตีสถานีตำรวจและอาคารสำนักงานรัฐในหมู่บ้านอีลิกซ์คู อำเภอซาเชอ เมืองคาชการ์ทางสุดขอบตะวันตกติดกับประเทศทาจิกิสถานและคีร์กีซสถาน เมื่อวันที่ 28 ก.ค. โดยตำรวจได้ตอบโต้และวิสามัญฯ “ผู้ก่อการร้าย” จำนวน 59 ราย และพบพลเรือนเสียชีวิต 37 คน
อย่างไรก็ดี การเปิดเผยรายละเอียดของทางการจีนมีขึ้นในอีกหลายวันต่อมาหลังเกิดเหตุโจมตี ทำให้บุคคลบางส่วนกังขาสงสัยว่าทำไมรัฐบาลท้องถิ่นจึงประกาศข้อมูลยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บล่าช้ากว่าที่ควรเช่นนี้ โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่มักถูกห้ามเข้าพื้นที่ซินเจียงอย่างเด็ดขาด มองว่าเป็นการปิดกั้นอิสระของการประเมินสถานการณ์แท้จริง
อนึ่ง ซินเจียง ถิ่นอาศัยอันห่างไกลทางจีนตะวันตกของชาวมุสลิมอุยกูร์ ผจญกับความรุนแรงบ่อยครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและชาวอุยกูร์พลัดถิ่นตำหนิว่า เป็นเพราะการดำเนินนโยบายกดขี่ข่มเหงและแบ่งแยกชนชั้นของรัฐบาลกลาง ได้สุมไฟแค้นเผาผลาญความสงบสุขของประชาชน แต่ปักกิ่งก็ปฏิเสธโดยชี้ว่าต้นเหตุมาจากขบวนการก่อการร้ายที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนไปตั้งรัฐอิสระเตอร์กิสถานตะวันออก (East Turkestan)
