หัวหน้าเวิลด์แบงก์ปลื้มจีน ปฏิรูปศ.ก.พร้อมกับรักษาสิ่งแวดล้อม

ไชน่าเดลี - ประธานธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ชื่นชมจีน ที่ปฏิรูปเศรษฐกิจควบคู่กับการแก้ไขปัญหามลภาวะในสิ่งแวดล้อม พร้อมกับคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจแดนมังกรจะโตร้อยละ 7.5 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

นายคิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกระบุเมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) ระหว่างเริ่มการเยือนจีนวันแรกว่า รัฐบาลจีนกำลังเดินมาถูกทาง ที่ยึดมั่นต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจ แม้เศรษฐกิจได้ชะลอการเติบโตก็ตาม และยังดำเนินไปพร้อม ๆ กับยึดมั่น ที่จะแก้ไขปัญหามลภาวะในสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มแข็ง โดยเวิลด์แบงก์จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

นอกจากนั้น นายคิมยังกล่าวว่า มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังมีเสถียรภาพ ซึ่งน่าจะทำให้โตได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลจีนตั้งไว้ที่ร้อยละ 7.5 ในปีนี้

รัฐบาลปักกิ่งประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมาตั้งแต่ต้นปี และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังประกาศมาตรการลดมลพิษในอากาศ ซึ่งรวมถึงการปิดโรงงานเก่า ที่ปล่อยมลพิษ เช่นโรงงานถลุงเหล็ก โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ ตลอดจนลดการใช้ถ่านหิน และส่งเสริมการใช้พลังงานนิวเคลียร์ และก๊าซธรรมชาติ

ปัจจุบัน ธนาคารโลกกำลังทำงานร่วมกับจีนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ซึ่งรวมทั้งการส่งเสริมพลังงานสะอาด การลดปัญหาการจราจรติดขัด การลดมลภาวะในอากาศ และปรับปรุงการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับอุทกภัย โดยการมาเยือนจีน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ของนายคิมครั้งนี้มุ่งหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ เกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และการผลักดันการขยายเมืองบนแดนมังกร

นอกจากนั้น นายคิมจะเป็นสักขีพยานในการลงนามในบันทึกช่วยจำว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับรัฐบาลจีน โดยเมื่อปีที่แล้วจีนและเวิลด์แบงก์ได้ลงนามข้อตกลงว่าด้วยการออกรายงานเกี่ยวกับการขยายเมือง ซึ่งครอบคลุมประเด็นต่างๆ เช่นการปกป้องสิ่งแวดล้อมและคาดว่าจะออกรายงานฉบับนี้ได้ในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ จีนประกาศเดินหน้าการขยายเมือง และคาดว่า ประชากรราว 300 ล้านคนอาจย้ายมาอาศัยในเขตเมืองในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยนายพาน จยาหวา ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาเมืองและสิ่งแวดล้อมของสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนระบุว่า การขยายเมืองมีขอบเขตมากกว่าการขยายขนาดของเมือง แต่ควรบรรจุเรื่องการลดก๊าซคาร์บอนให้อยู่ในระดับต่ำและพัฒนาพื้นที่สีเขียว ตลอดจนพลังงานสะอาด

ขณะที่นายลู้ ต้าเต้า นักวิชาการของสถาบันศึกษาวิทยาศาสตร์ของจีนย้ำว่า การขยายเมือง ที่รักษาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เป็นทางเลือก แต่ถือเป็นข้อบังคับทีเดียวสำหรับแดนมังกร
ปัจจุบัน จีนเป็นชาติที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนปริมาณมากที่สุดในโลก หรือเกือบร้อยละ 30 ของทั้งหมดในโลก และเพื่อแก้ไขปัญหานี้ จีนให้คำมั่นว่า จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ร้อยละ 40-45 ต่อจีดีพีภายในปี 2563 และตั้งเป้าเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 15 ของการใช้พลังงานในประเทศทั้งหมดภายใน 2563 จากร้อยละ 8 ในปี 2554