จีนซุ่มอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจหัวเมืองหลัก

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ต้องการสนับสนุนงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจแก่หัวเมืองและมณฑลหลัก ๆ เพื่อช่วยเหลือให้พื้นที่เหล่านี้มีความเติบทางเศรษฐกิจเป็นไปตามคาด

รายงานข่าวดังกล่าวถือเป็นกรณีเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เซี่ยงไฮ้ได้รับเงินกู้มหาศาลจากธนาคารที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ เพื่อนำมาสร้างเขตการค้าเสรีบนแผ่นดินใหญ่ คล้าย ๆ กับในฮ่องกง

แหล่งข่าวจากรัฐบาลและวงการอุตสาหกรรมการธนาคารของจีนแจ้งกับเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรของจีน (Agbank) หนึ่งในสี่ธนาคารใหญ่สุดแดนมังกร ได้ลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลเซี่ยงไฮ้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะปล่อยสินเชื่อให้กู้เป็นวงเงินมูลค่าถึง 250,000 ล้านหยวน หรือเทียบเท่ากับร้อยละ 12.5 ของจีดีพีของเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วทีเดียว

ทั้งที่ปีนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลก็ได้ออกมายืนกรานว่า ปักกิ่งจะไม่ใช้มาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจอีกทั่วประเทศ ดังที่เคยทำไปเมื่อปี 2551 เพื่อให้มั่นใจว่า มหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองอย่างจีนจะไม่ประสบภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจอีก ทว่า.. แหล่งข่าวไม่เผยนามก็บอกว่า รัฐบาลปักกิ่งกลับไปออกกฎที่เรียกว่า “การกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ” ออกมาเพื่อช่วยเหลือหัวเมืองใหญ่ ๆ เช่นเซี่ยงไฮ้ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เซี่ยงไอ้ประสบปัญหาท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในและนอก เมื่อปีที่ผ่านมาการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่เพียงร้อยละ 7.5 เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่จีนตั้งไว้อยู่ที่ 7.8 เปอร์เซ็นต์

ธนาคารอื่น ๆ อาจออกมาเลียนแบบธนาคารเพื่อการเกษตรในการปล่อยกู้ให้แก่เซี่ยงไฮ้ และอาจหันไปให้เงินกู้พื้นที่มณฑลใกล้เคียงอย่างก่วงตง (กวางตุ้ง) ซึ่งขณะนี้กำลังประสบปัญหาการส่งออกที่ย่ำแย่ลง แหล่งข่าวฯ ระบุ

แหล่งข่าวชี้ว่า เงินกู้ที่ปล่อยจากธนาคารที่รัฐบาลเป็นเจ้าของให้แก่เมืองบนแผ่นดินใหญ่เช่นเซี่ยงไฮ้ทำนองนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก

การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของเซี่ยงไฮ้มีความสำคัญต่อรัฐบาลกลางในการประกันว่าจีนจะสามารถมีเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ในปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 7.5 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ในปลายปี 2551 ปักกิ่งประกาศชุดความช่วยเหลือมูลค่ามากถึง 4 ล้านล้านหยวน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตการเงินในประเทศตะวันตก ทว่าถูกนักวิชาการวิจารณ์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ภายในของรัฐบาลเองบางคนก็ออกมาชำแหละมาตรการฯ ว่าไร้ประสิทธิภาพ เนื่องจากเงินทั้งหมดที่อัดฉีดกลับไปอยู่ที่รัฐวิสาหกิจของจีน และลงไปกับโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคเมกะโปรเจ็ค แทนที่จะช่วยผู้ประกอบการรายย่อยหรือขนาดกลาง

จากบันทึกภายในของรัฐบาลจีน ตีพิมพ์โดยเดอะโพสต์ ระบุว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรจีนจะได้สนับสนุนโครงการก่อสร้าง ด้านการท่องเที่ยวนานาชาติ โครงการสร้างรีสอร์ทที่พักอาศัยในเซี่ยงไฮ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โครงการดิสนีย์แลนด์” และนอกจากนั้นก็ยังมีการผลักดันให้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ขึ้นด้วย

ธนาคารฯ ยืนยันกับเดอะโพสต์ว่า ธนาคารได้ลงนามข้อตกลง “ความร่วมมือยุทธศาสตร์ทุกด้าน” (all-aspect strategic co-operation) กับเซี่ยงไฮ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายหยัง สยง นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ และนายเจียง เฉาเหลียง ประธานบริหารธนาคารเพื่อการเกษตรของจีนได้จรดหมึกกันไปหมาด ๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 ส.ค.)

ทั้งนี้ ปักกิ่งเคยประกาศความต้องการที่จะทำให้เซี่ยงไฮ้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินระดับแถวหน้าของโลก ภายในปี 2563 เทียบเท่านิวยอร์กและลอนดอน

อย่างไรก็ตาม การผลักดันเรื่องเปิดเขตการค้าเสรีที่เซี่ยงไฮ้ต้องมีการชะลอไปก่อน เนื่องจากมีปัญหาด้านช่องว่างทางกฎหมาย ทว่าแหล่งข่าวอีกแห่งก็บอกว่า นายกหลี่ เค่อเฉียงของจีนได้ออกมาประกาศว่า จะผลักดันเขตการค้าเสรีนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นหลี่จึงสนับสนุน (โดยส่วนตัว) ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรอัดฉีดเงินลงไปที่เซี่ยงไฮ้

บุคคลสำคัญในการกู้ยืมครั้งนี้ก็คือ นายเจียง เฉาเหลียง นายใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรจีน ผู้ซึ่งมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้นำในเซี่ยงไฮ้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ก็ได้ไปล็อบบี้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรมาจัดตั้ง สำนักงานใหญ่แห่งที่สองในเซี่ยงไฮ้ เพื่อจะได้ไปสู่ฝันของการเป็นศูนย์กลางทางการเงินได้เร็วขึ้น ฝ่ายธนาคารฯ ก็ไม่รอช้า ได้เปิดแผนกหลักสำคัญต่าง ๆ ขึ้นมา 10 แห่งในเซี่ยงไฮ้ อาทิ ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ ศูนย์เครดิต และสำนักงานใหญ่ด้านธุรกิจการธนาคารส่วนบุคคลฯ