xs
xsm
sm
md
lg

การท่องเที่ยวบุกหมู่เกาะพาราเซล หวั่นสิ่งแวดล้อมพัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพการท่องเที่ยวบนหมู่เกาะพาราเซล ที่ถูกชาวเน็ตวิจารณ์ - เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - สังคมออนไลน์เมืองจีนเป็นห่วงการพัฒนาการท่องเที่ยวจะทำลายสิ่งแวดล้อมของหมู่เกาะพาราเซล ซึ่งจีนกับเวียดนามต่างอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครอง หลังจากนักท่องเที่ยวผู้หนึ่งโพสต์รูปการล่าสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์มาอวดอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก

หลังจากที่เรือท่องเที่ยวลำแรกจากแดนมังกรแล่นไปยังหมู่เกาะ ที่มักโฆษณากันว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองจีน” ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลจีนใต้แห่งนี้ ผ่านไปได้หลายเดือน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตก็ดังเป็นพลุแตกเมื่อวันศุกร์ ( 26 ก.ค.) เมื่อได้เห็นข้อความและรูปถ่ายในเว็บบอร์ดเกี่ยวกับปลาทะเลของนักท่องเที่ยว ซึ่งใช้ชื่อว่า “ Shadowttt” ที่เพิ่งไปเที่ยวกลับมา

นอกจากกิจกรรมธรรมดาทั่วไป เช่น การตกปลา ดำน้ำ และดูเต่าทะเลแล้ว นักท่องเที่ยวรายนี้ยังคุยอวดเรื่องที่คณะทัวร์มีโอกาสได้ไปล่าสัตว์ทะเล ที่ใกล้จะสูญพันธุ์มากินเป็นอาหาร เช่น หอยมือเสือยักษ์ ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ไทรเดกนา ไกเกส (Tridacna gigas) และหอยงวงช้าง แม้ว่าสัตว์ทะเลเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองจากไซเตส หรืออนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศสำหรับชนิดสัตว์ป่าและพืชพรรณ ที่ใกล้สูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora ) ก็ตาม โดยเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา จีนและอีก 117 ชาติได้ลงนามในข้อตกลงพหุภาคี เพื่อคุ้มครองสัตว์และพืช 34,000 สายพันธุ์ ซึ่งรวมทั้งสัตว์ ที่นักท่องเที่ยวผู้นี้เอ่ยถึง
ภาพการท่องเที่ยวบนหมู่เกาะพาราเซล ที่ถูกชาวเน็ตวิจารณ์ - เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์
“ หอยมือเสือยักษ์ถ้าเสิร์ฟแบบดิบ ๆ อร่อยเหาะอย่าบอกใคร เหยาะมัสตาร์ดกับซอสถั่วเหลืองลงไป รสชาติงี้สุดยอด” เขาเล่า

“หอยมือเสือยักษ์ส่วนใหญ่ ที่พวกเราจับได้ จะหนักไม่น้อยกว่า 4 กิโลกรัม”

ส่วนภาพอื่น ๆ เป็นภาพนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กำลังดำน้ำ พร้อมกับจับหอยเม่น และปลาใต้ท้องทะเล

ทริ้ปพักแรมบนหมู่เกาะพาราเซลจบลงด้วยมื้ออาหารค่ำซาชิมิหอยเม่น และหอยเม่นนึ่ง

เรื่องราวทิ้งท้ายด้วยการวิงวอนนักท่องเที่ยว ที่เตรียมจะไปว่า ต้องไม่ตกปลา หรือล่าสัตว์ทะเลมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามคนอ่าน ที่มีจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อมได้โมโหโกรธาไปเรียบร้อยแล้ว

บล็อกเกอร์คนหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ที่ใช้นามว่า “พ่าน” กล่าวว่า เขารู้สึกช็อก ที่แนวปฏิบัติเบื้องต้นในการปกป้องสัตว์ทะเลหายาก เช่นการห้ามไปแตะต้อง หรือทำลาย ได้ถูกละเลยอย่างสิ้นเชิงโดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ หากเหตุการณ์ลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นต่อไป อีก 2 ปีข้างหน้าหมู่เกาะซีซา (พาราเซล) จะมีสภาพอย่างไร

ขณะที่ชาวเน็ตอีกหลาย ๆคน เรียกร้องให้ยุติสิ่งที่เรียกกันว่า การพัฒนาการท่องเที่ยว ก่อนที่หมู่เกาะพาราเซลจะถูกทำลาย

“ Shadowttt” ยังระบุว่า สมาชิกในกลุ่มของเขาจ่ายเงินคนละ 8,500 หยวนสำหรับท่องเที่ยวหมู่เกาะพาราเซล 7 วัน โดยออกเดินทางจากเมืองไหโขว่ บนเกาะไหหลำ และกำหนดพักแรมบนเกาะนาน 5 วัน

ในเถาเป่า ซึ่งเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซใหญ่ที่สุดของจีน มีการขายแพ็กเกจทัวร์สำหรับพักแรมบนหมู่เกาะพาราเซล โดยลงโฆษณาว่า “การท่องเที่ยวสำรวจสัตว์ป่ากลางแจ้ง” ในราคา 8,500 หยวน ส่วนการท่องเที่ยวบนเรือสำราญคิดราคาประมาณ 5,000 หยวน

อย่างไรก็ตาม หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป โฆษกของเทศบาลเมืองซานซาชี้แจงว่า การปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรกในนโยบายบริหารพัฒนาของเมืองแห่งนี้ ซึ่งรัฐบาลจีนก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 เพื่อทำหน้าที่บริหารปกครองหมู่เกาะ ที่มีอยู่หลายแห่งในทะเลจีนใต้ รวมทั้งหมู่เกาะพาราเซล

ทั้งนี้ โครงการของรัฐบาลจีนในการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปหมู่เกาะเหล่านี้ ได้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งแก่เวียดนาม ตลอดจนสร้างความวิตกกังวลไปไกลถึงสหรัฐฯ อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น