การสำรวจชี้ จีนกำลังเป็นมหาอำนาจหมายเลขหนึ่ง แทนที่สหรัฐฯ

เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--การสำรวจทัศนคติระหว่างประเทศเผยในวันนี้(18 ก.ค.) จีนกำลังทะยานขึ้นมาเป็นเป็นมหาอำนาจ แทนที่สหรัฐอเมริกา แม้ว่ามีเพียงครึ่งหนึ่งของกลุ่มประเทศที่ตอบการสำรวจ ที่ “ชอบ” จีน

การสำรวจฯนี้ยังระบุว่า มีเพียง 1 ประเทศ ในแต่ละกลุ่ม 4 ประเทศในการสำรวจ คิดว่าจีนเคารพเสรีภาพส่วนบุคคลของประชาชนในประเทศ ขณะที่ 95 เปอร์เซนต์ของประเทศทั้งหมดที่เข้าร่วมการสำรวจ เชื่อว่ารัฐบาลอเมริกันเคารพเสรีภาพส่วนบุคคล

ทั้งนี้ พิว รีเสิร์ช (Pew Research) เป็นผู้จัดทำการสำรวจชุดนี้ภายใต้โครงการ “ทัศนคติโลก” (Global Attitudes Project) โดยสอบถามความคิดเห็นใน 39 ประเทศ จาก 37,653 คน/หน่วย ระหว่างวันที่ 2 มี.ค.-1 พ.ค.2013 ก่อนหน้าที่กรณีเอ็ดวาร์ด สโนว์ ถูกเปิดเผยออกสู่สาธารณะ นับเป็นการสำรวจชุดแรกที่หยั่งวัดปฏิกิริยาต่อจีนขนานใหญ่เช่นนี้

“ดูเหมือนว่าการปฏิบัติต่อเสรีภาพบุคคล เป็นปัจจัยหลักๆที่ตัดสินความชอบ และข้อมูลตัวเลขที่ออกมานี้ก็ทำให้รัฐบาลจีนต้องคิดทบทวนให้ดีๆ” บรู๊ซ สโตคส์ (Bruce Stokes) ผู้อำนวยการ Global Attitudes กล่าว

กระแสแนวคิดโลกเกี่ยวกับดุลอำนาจได้เปลี่ยนไปตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 โดยการสำรวจของพิว สะท้อนว่ามีประชาชนจำนวนมากขึ้นๆ ที่คิดว่าขณะนี้จีนได้ครองอำนาจครอบงำโลกไปแล้ว หรือไม่ก็ กำลังค่อยๆกลายเป็นมหาอำนาจโลกที่มีอำนาจครอบงำ

แม้กระทั่งในสหรัฐฯ เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบ บอกว่าจีนได้ /หรือจะขึ้นมาแทนที่สหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจหมายเลขหนึ่งของโลก

บรู๊ซ สโตคส์ กล่าวว่าการที่จีนเรืองอำนาจขึ้นนี้ ได้เป็นปัจจัยทำให้อัตราความชื่นชอบจีนต่ำลง

นอกจากนี้ จำนวนชาวจีนและชาวอเมริกัน ที่มีทัศนคติที่ดีต่อกันและกัน มีอัตราลดลงในช่วง 2 ปีมานี้ ในการสำรวจของพิวเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ระบุ 51 เปอร์เซนต์ของชาวอเมริกันมีทัศนคติที่ดีกับจีน เทียบกับ 37 เปอร์เซนต์ในขณะนี้ และผลการสำรวจที่คล้ายคลึงกัน ก็ระบุว่า ชาวจีน 58 เปอร์เซนต์ มีทัศนคติที่ดีกับอเมริกันในปี 2010 แต่ขณะนี้ มีชาวจีนเพียง 40 เปอร์เซนต์เท่านั้นที่ชอบอเมริกัน

สีว์ กัวฉี ผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์จีนกับต่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง และเป็นผู้เขียนหนังสือ Olympic Dreams กล่าวว่า ภาพลักษณ์บนเวทีโลกของจีน แย่ลง เนื่องมาจากจีนไร้ทิศทางในการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศ

“ปัญหาใหญ่ของนโยบายต่างประเทศจีน เป็นเพราะว่าไร้แนวคิดระยะยาวในนโยบาย(อเมริกัน)ในศตวรรษที่ 19 และ 20 จีนไม่มีแม้กระทั่งกำหนดผลประโยชน์แห่งชาติที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น ปัจจุบัน ไม่มีใครในปักกิ่ง ที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ ผลประโยชน์ของใครที่มีความสำคัญกว่า? ผลประโยชน์ของชาติ หรือของพรรคคอมมิวนิสต์? รัฐบาลจะทำอย่างไร ถ้าเกิดความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ของชาติ และผลประโยชน์ของพรรคคอมมิวนิสต์?

อย่างไม่น่าประหลาดใจเลย ญี่ปุนไม่ปลื้มจีนสุดๆ ในแดนปลาดิบ มีเพียง 5 เปอร์เซนต์เท่านั้น ที่มีทัศนคติที่ดีกับจีน ขณะที่ในแดนมังกร ก็มีเพียง 4 เปอร์เซนต์เท่านั้น ที่มีทัศนคติที่ดีกับญี่ปุ่น.

....................

(**หมายเหตุ : ในกรณีเปิดช่องแสดงความคิดเห็นฯ ทีมงานมุมจีน ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น ที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นข่าวฯ ใช้คำระราน ส่อเสียด ดูหมิ่น หยาบคาย กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ และขอความร่วมมือผู้อ่าน ผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นฯ ร่วมตรวจสอบข้อความที่ไม่เหมาะสมได้ โดยการกดปุ่ม "แจ้งลบ")