เอเยนซี - องค์กรกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของฝรั่งเศส (เอเอ็มเอฟ) อนุมัติราคาเสนอขายหุ้นคลับเมด รีสอร์ทที่พักสุดหรู ของฝรั่งเศส ส่งผลให้ บริษัท โฟซันกรุ๊ป ของจีน กับ เอ็กซ์ซ่า (ฝรั่งเศส) เป็นผู้ร่วมถือหุ้นใหญ่ของกิจการฯ
สื่อต่างประเทศรายงาน (16 ก.ค.) ว่า องค์กรกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของฝรั่งเศส (เอเอ็มเอฟ) ระบุว่า ได้อนุมัติราคาเสนอขายหุ้นของคลับเมด (Club Med - Club Méditerranée) รีสอร์ทที่พักสุดหรู ของฝรั่งเศส ด้วยราคาหุ้น 17.50 ยูโรต่อหุ้น ให้กับโฟซัน กรุ๊ป บริษัทเอกชนรายใหญ่ของจีนและเอ็กซ์ซ่า บริษัทบริหารการลงทุนของฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองบริษัทจะกลายเป็นผู้ร่วมถือหุ้นหลักของคลับเมด
รายงานข่าว ระบุว่า หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ คณะกรรมการของคลับเมดได้ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ให้เสนอราคาขายธุรกิจมูลค่า 556.29 ล้านยูโร (ราว 22,874 ล้านบาท) แต่ทั้งนี้ คลับเมดจะยังคงเป็นกิจการของฝรั่งเศส เพื่อคลายกังวลของบรรดานักการเมืองฝรั่งเศสที่ระบุว่า บริษัทสัญชาติตนจะตกเป็นของจีน
สำหรับ โฟซัน กรุ๊ปนั้น เริ่มเข้ามาถือหุ้นของคลับเมดในปี 2553 และมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดด้วยหุ้นเกือบร้อยละ 10 มากกว่าเอ็กซ์ซ่าของฝรั่งเศส ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 9.4 แต่ต่อมา ทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันลงทุนเพิ่มเพื่อเทคโอเวอร์กิจการ โดยล่าสุด เอเอ็มเอฟ ประกาศว่า โฟซันและเอ็กซ์ซ่าได้ร่วมกันถือหุ้นถึงร้อยละ 34 ของบริษัท ขณะที่ทั้งสองบริษัท ยังต้องถือหุ้นเพิ่มให้ได้มากกว่าร้อยละ 50 จึงจะถือว่าการเข้าซื้อกิจการประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม โคเลทท์ นิววิลล์ ตัวแทนของผู้ถือหุ้นรายย่อยของคลับเมด เห็นว่า ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นการประเมินมูลค่าของคลับเมดที่ต่ำเกินไป และเรียกร้องผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท ขัดขวางการยอมรับการเสนอขายในครั้งนี้
ทั้งนี้ คลับเมดเป็นบริษัทธุรกิจท่องเที่ยวชื่อดังของฝรั่งเศส มีสาขา 96 แห่งทั่วโลก สำหรับในเอเชีย คลับเมด ได้เปิดบริการที่ญี่ปุ่น ภูเก็ต มัลดีฟส์ และบาหลี เป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยม และบ้างว่าเป็นสถานที่พักผ่อนและดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ สำหรับครั้งหนึ่งในชีวิตที่หลายคนนึกถึง นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสถานที่ทำงานที่น่าทำงานที่สุดในโลก โดยพนักงานสามารถหมุนเวียนย้ายไปประจำอยู่ที่สาขาอื่นๆ ได้ทั่วโลกทุกปี
คลับเมด เปิดดำเนินกิจการมานานกว่า 60 ปีแล้ว ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2493 เป็นกิจการของฝรั่งเศส ที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป และมีกำไรในปี 2554 ด้วยการยอมรับความเปลี่ยนแปลง ปรับโครงสร้างกิจการฯ เปิดตลาดกลุ่มลูกค้าระดับสูง เพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ และขยายธุรกิจในประเทศจีน