จีนไฟเขียวแล้ว! รับรองแผนฯ เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการค้าเสรี

เอเยนซี - จีนไฟเขียว รับรองแผนเปิดเซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางการค้าเสรี ผู้เชี่ยวชาญคาด อีกไม่นานจะทอดเงารัศมีศูนย์กลางการเงินโลก บดบังฮ่องกง

สื่อจีนรายงาน (4 ก.ค.) ว่า สภากรรมาธิการแห่งรัฐ ได้อนุมัติเปิดนครเซี่ยงไฮ้เป็นเขตการค้าเสรีแล้ว เพื่อผลักดันให้เซี่ยงไฮ้เป็นนครใหญ่แห่งเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต โดยคณะกรรมการฯ ได้รับรองแผนของเมือง ให้เปิดเขตการค้าเสรีแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังจะเป็นเขตทดสอบเพื่อการปฏิรูปนโยบายที่สำคัญๆ ทางเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ สินค้าข้ามพรมแดน และตลาดกระแสเงินทุนในพื้นที่ ซึ่งมีผู้วิเคราะห์ว่า เงาของเขตเศรษฐกิจการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้นี้ อาจถึงขั้นบดบังรัศมีของ ฮ่องกง ในฐานะผู้นำการเงินของประเทศ

สภาแห่งรัฐกล่าว ในการแถลงฯ หลังจากการประชุมฯ ซึ่งนำโดย นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ว่าเขตการค้าเสรีแห่งนี้ จะเห็นภาพรวมของการยกระดับเศรษฐกิจจีนขึ้นไปอีกขีดขั้น และจะเอื้อหนุนเศรษฐกิจจีนเป็นอย่างมาก ในการแข่งขันการค้าระดับโลก ช่วยรองรับความร่วมมือใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่นๆ อันจะปูทางไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป โดยในขั้นต้นนี้ เซี่ยงไฮ้จะมีการปรับและขยายพื้นที่ 4 แห่ง ที่สามารถนำเข้าอุปกรณ์สินค้า เข้ามาผลิตประกอบ และส่งกลับออกไป โดยไม่มีการแทรกแซงด้านภาษีจากศุลกากร

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า แผนมุ่งเป้าไปที่การสร้างในที่สุด ฮ่องกง อีกแห่งบนแผ่นดินใหญ่ จะเป็นจักรเฟืองใหม่สำหรับการขับเคลื่อน ฟื้นฟูการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่

เจ้าหน้าที่ของรัฐ กล่าวว่า ในที่สุด เขตการค้าเสรี ก็จะขยายเป็นเขตแดนเศรษฐกิจขนาดใหญ่และดำเนินการเปิดเสรีทางการเงินได้ โดยซู่ว์ ฉวน รองผู้อำนวยการ สำนักงานบริการการเงินเซี่ยงไฮ้ กล่าวในการสัมนาการเงิน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การปฏิรูปอัตราดอกเบี้ยและกลไกอัตราแลกเปลี่ยน จะถูกนำมาใช้ในเขตการค้าเสรี

สำหรับอนาคตนั้น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฯ กล่าวว่า มีความมั่นใจบทบาททางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคของเซี่ยงไฮ้ แต่จะใช้วิธีการ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อนในการดำเนินการเปิดเสรี

รายงานข่าวกล่าวว่า การปักหมุดความหวังต่อเขตการค้าเสรี นี้ จะยกระดับความเป็นสากลของการค้าจีน แม้ว่าความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินโลก ในปี พ.ศ. 2563 ยังถูกมองว่าเป็นความหวังลอยๆ ขณะที่ผู้นำหลายคนก็ยังลังเลที่จะอนุมัติประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการเปิดเสรีให้ เซี่ยงไฮ้ เป็นตลาดเงินโดยสมบูรณ์ และในความเป็นจริงนั้น พบว่า นับตั้งแต่ปี 2551 เศรษฐกิจของเซี่ยงไฮ้ ยังมีการเจริญเติบโตช้ากว่า เมืองอื่น ๆ ของจีนมากที่สุด

บรรดาผู้นำคนใหม่ ทั้งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และ นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ซึ่งถูกมองว่าเป็นนักปฏิรูปนั้น เชื่อมั่นและเอาจริงเอาจังมากกับการสนับสนุนการเติบโตของนครเซี่ยงไฮ้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา สื่อฮ่องกง ยังได้รายงานว่า นายฝาง ซิงไห่ อดีตหัวหน้าศูนย์บริการการเงินเซี่ยงไฮ้ ผู้เคยประเมินในเชิงข่มความเป็นศูนย์กลางการเงินของฮ่องกง ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่อาวุโส ประจำศูนย์กลางกิจการการเงินและเศรษฐกิจในกรุงปักกิ่งด้วย