เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ต้าเหลียน วั่นต๋า กรุ๊ป บรรลุข้อตกลงซื้อซันซีเคอร์อินเตอร์เนชั่นแนล (Sunseeker International ) บริษัทผู้ผลิตเรือยอชต์หรูของอังกฤษ ที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ถึง 4 เรื่อง รวมทั้งเรื่อง พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก หรือ Quantum of Solace ซึ่งเป็นภาคที่ 22 ของภาพยนตร์สายลับเรื่องนี้
ตามข้อตกลงดังกล่าว วั่นต๋าจะเข้าถือหุ้นของซันซีเคอร์อินเตอร์เนชั่นแนลร้อยละ 91.81 ส่วนที่เหลือถือครองโดยฝ่ายบริหารของซันซีเคอร์ โดยวั่นต๋าจะใช้เงินเพื่อการนี้ทั้งสิ้น 320 ล้านปอนด์ และคาดว่า การถ่ายโอนกิจการจะเสร็จสิ้นภายในกลางเดือนส.ค. นี้
นายหวัง เจี้ยนหลิน ประธานของวั่นต๋าระบุว่า การเข้าซื้อกิจการของซันซีเคอร์ได้ขยายฐานที่มั่นของวั่นต๋าในตลาดท่องเที่ยวและบันเทิงในระดับโลก นับเป็นย่างก้าว ที่สำคัญในการรุกธุรกิจในต่างแดนของวั่นต๋า โดยเมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว วั่นต๋าเพิ่งซื้อเอเอ็มซี เอ็นเทอร์เทนเมนต์ ( AMC Entertainment) บริษัทเครือข่ายโรงภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ด้วยเงินจำนวน 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากการทำข้อตกลงซื้อบริษัทเรือยอชต์หรูแล้ว วั่นต๋ายังตกลงทำสัญญากับกรีนพร็อบเพอร์ตี้ ( Green Property) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษ ในโครงการก่อสร้างศูนย์การค้าในใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว อาคารสำนักงาน และอาคารที่พักอาศัย ด้วยเงินลงทุนจำนวน 700 ล้านปอนด์อีกด้วย
เหตุผลสำคัญในการซื้อซันซีเคอร์ก็เนื่องจากวั่นต๋ากำลังก่อสร้างรีสอร์ตหรู 3 แห่งที่เมืองริมชายฝั่งทะเลได้แก่ชิงเต่า ซันย่า และต้าเหลียน โดยรีสอร์ตแต่ละแห่งจะมีสโมสรเรือยอชต์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ประกอบกับวั่นต๋าเล็งเห็นแล้วว่า ความต้องการสิ่งหรูหราต่าง ๆ กำลังบูมอย่างมากบนแดนมังกร
นายหวังระบุว่า วั่นต๋ายังกำลังพิจารณาต่อเรือยอช์ตเองในประเทศ โดยเพิ่มสายการผลิตของซันซีเคอร์เข้ามาใน 1 ใน 3 เมืองนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระภาษีนำเข้าเรือยอชต์จากประเทศ ที่สูงลงได้
ด้านนายสจ๊วร์ต แม็กอินไทร์ กรรมการผู้จัดการของซันซีเคอร์ กล่าวว่า การลงทุนและการสนับสนุนจากวั่นต๋าจะเป็นเครื่องมือช่วยไขกุญแจไปสู่ศักยภาพ ที่มีมหาศาลของตลาดเรือยอชต์หรู ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีน
บริษัทซันซีเคอร์ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2511 โดยเป็นบริษัทผู้ต่อเรือยอชต์รายใหญ่ที่สุดในอังกฤษด้วยกำลังการผลิต 300 ลำต่อปี และเรือแต่ละลำมีราคาตั้งแต่ 4 แสนปอนด์ - 21 ล้านปอนด์
สำหรับตลาดเรือยอชต์ของจีนนั้นคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปีพ.ศ. 2563 หรือเกือบ 1 ใน 3 ของมูลค่ารวมกันในโลกในปีพ.ศ. 2553 โดยส่วนหนึ่งเนื่องมาจากมาตรการจูงใจด้านภาษีของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้บริษัทในประเทศหันมาลงทุนต่อเรือยอช์ตกันมากขึ้น