เอเยนซี - ยักษ์ใหญ่กาแฟข้ามชาติ “สตาร์บัคส์” (Starbucks) สาขาใจกลางพาณิชย์ในฮ่องกงถูกเปิดโปง นำน้ำจากห้องสุขามาใช้ชงกาแฟจำหน่ายแก่ลูกค้าเป็นเวลานานสองปีแล้ว
สื่อฮ่องกง แอปเปิล เดลี่ รายงานเมื่อวันพฤหัสฯ (30 พ.ค.) ว่า ร้านสาขา “สตาร์บัคส์” ที่ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของอาคารแบงค์ ออฟ ไชน่า ทาวเวอร์ (Bank of China Tower) ใจกลางย่านธุรกิจของเกาะฮ่องกง นำน้ำจากห้องสุขาชายภายในบริเวณจอดรถของอาคาร มาใช้ชงกาแฟจำหน่ายแก่ลูกค้าทุกวัน
โดยในแต่ละวันพนักงานของร้านจะเข็นรถขนน้ำไปยังห้องสุขาชาย เพื่อขนถ่ายน้ำมาใช้ภายในร้าน ซึ่งทางร้านได้ติดตั้งหัวจ่ายน้ำแถมติดป้าย "เฉพาะร้านสตาร์บัคส์เท่านั้น" (Starbucks only) ห่างจากโถปัสสาวะไม่กี่ฟุต
การขนย้ายน้ำเพื่อนำมาใช้ภายในร้านเช่นนี้ ดำเนินมาตั้งแต่เปิดร้านครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2554 และในแต่ละวันจะมีการขนย้ายอย่างน้อย 5 รอบ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเหตุผลของการนำน้ำมาใช้ในลักษณะนี้ พนักงานจากสตาร์บัคส์ระบุว่า “เนื่องจากไม่มีการติดตั้งสายท่อส่งน้ำโดยตรงมาที่ร้าน ทำให้ทางร้านจำเป็นต้องขนย้ายน้ำจากหัวจ่ายที่ติดตั้งโดยเฉพาะในห้องสุขามาใช้แทน”
ทั้งนี้ พนักงานคนเดิมยืนยันอีกว่าน้ำที่นำมาใช้นั้น ผ่านค่ามาตรฐานความปลอดภัยตามที่หน่วยงานท้องถิ่นและองค์การอนามัยโลก หรือ ฮู (WHO) กำหนดไว้
สำนักงานอาหารและสุขอนามัยสิ่งแวดล้อมในฮ่องกง (Food and Environmental Hygiene Department) บอกกับแอปเปิล เดลี่ ว่า การที่สตาร์บัคใช้น้ำจากห้องสุขาเช่นนี้ เป็นการกระทำไปที่ผิดไปจากกฎระเบียบ หลังจากที่มีการเปิดเผยฯ ทางหน่วยงานก็ได้แจ้งเตือนไปยังร้านสาขาสตาร์บัคส์นี้แล้ว
นอกจากนี้ Ben Cowling จากวิทยาลัยสุขอนามัยสาธารณะ ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวว่า ที่กรองน้ำอาจขจัดแบคทีเรียออกไปได้ อย่างไรก็ตาม ในน้ำอาจมีเชื้อไวรัสขนาดเล็กๆที่เครื่องกรองน้ำไม่อาจกำจัดออกได้ และการที่พนักงานเข้าไปในห้องน้ำบ่อยๆ ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นในการจะนำเชื้อโรคอื่นๆจากห้องน้ำติดเข้ามาปนเปื้อนในบริเวณประกอบอาหาร
อย่างไรก็ตาม หลังจากข่าวการนำน้ำจากห้องสุขามาใช้ของร้านกาแฟ “สตาร์บัคส์” แห่งนี้ได้แพร่กระจายออกไป ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบจำนวนมาก ทางร้านจึงเปลี่ยนมาใช้น้ำที่ซื้อจากแหล่งจำหน่ายภายนอก ที่มีการบรรจุและขนส่งอย่างถูกสุขอนามัยแทน