เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในฮ่องกงแตกเป็นสองฝักสองฝ่าย วานนี้ (1 ม.ค.) ผู้คนหลายหมื่นออกมาประท้วงเรียกร้องให้นายเหลียง เจิ้นอิง ลงจากอำนาจตำแหน่งผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ขณะที่กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลก็ออกเคลื่อนพลมาหนุนเหลียงตอบโต้กลุ่มดังกล่าว
กลุ่มเคลื่อนไหวหลายกลุ่มออกมาวานนี้บ่งชี้ให้เห็นว่า ขั้วทางการเมืองได้แตกออกเป็นสองฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายมีมุมมองต่อตัวนาย เหลียง เจิ้นอิง ผู้ว่าการฯ ฮ่องกงไม่เหมือนกัน คืนวานมีการจับกุมผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล 6 ราย หลังจากการชุมนุมส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
การเดินขบวนมีการจัดการโดยกลุ่มแนวร่วมสิทธิพลเรือน (Civil Human Rights Front) ได้เรียกร้องให้นายเหลียงลาออก และเรียกร้องสิทธิของประชาชนในการเลือกตั้งตามแบบฉบับสากล ได้กลายเป็นจุดสนใจของประชาชนอย่างมาก กลุ่มจัดการประท้วงฯ คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้มาร่วมเดินขบวนเป็นเวลาสี่ชั่วโมงวานนี้นั้น มีมากถึง 130,000 คนทีเดียว
ขณะที่ตำรวจเผยว่า ผู้เดินขบวนมีจำนวน 17,000 คน ได้เริ่มเคลื่อนตัวออกจากบริเวณวิคตอเรียปาร์ค ส่วนกลุ่มสำรวจความเห็นประชาชนของมหาวิทยาลัยฮ่องกงเผยว่า กลุ่มผู้เดินขบวนมากกว่า 30,000 คนได้เข้ามายึดพื้นที่ในเขตวานจื่อ ขณะที่ตำรวจบอกว่ายอดผู้เดินขบวนในเขตดังกล่าวให้มากสุดแค่ 26,000 คน
สำนักข่าวซินหวารายงานเมื่อคืนที่ผ่านมาเกี่ยวกับกลุ่มเดินขบวนต่อต้านเหลียง รวมถึงข้อเรียกร้องให้เหลียงออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวว่าเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นได้ยาก
ขณะที่ ฝ่ายสนับสนุนเหลียงประกอบไปด้วยสมาคมเฉลิมฉลองฮ่องกง (Hong Kong Celebrations Association) กลุ่มเสียงคนรักฮ่องกง (Voice of Loving Hong Kong) ได้เกณฑ์คนของตนเข้าเดินขบวนจำนวน 60,000 และ 2,500 คนตามลำดับ ตำรวจเผยว่า จำนวนจริงน่าจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 และ 500 คน เท่านั้น
กลุ่มที่ออกมาประท้วงมีการจัดการโดยปีกสนับสนุนประชาธิปไตยแบบสุดโต่ง อย่างเช่นพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ต่อต้านเหลียง ก็มีรายงานว่าพวกเขาได้เกณฑ์คนในกลุ่มออกมาร่วมขบวนด้วยหลายพันคนในแถบใจกลางเมืองเขตเซ็นทรัล ขณะที่พรรคพลังประชาชนฮ่องกงเผยว่า จำนวนที่ออกมาจากฝั่งของพวกเขาอยู่ที่ 12,000 คน ทว่ามหาวิทยาลัยฮ่องกงเผยว่า จำนวนจริงมีเพียง 4,700 คนเท่านั้น
หลังจากเวลาสี่ทุ่ม ตำรวจได้ทำการจับกุม 6 ผู้ประท้วงประกอบด้วย นักกฎหมายผมยาว เหลียง คว็อกฮัง และนักกฎหมาย จัง คินซิง
ผู้ประท้วงประมาณ 400 คน พยายามจะปิดชุมทางบริเวณถนนราชินีกลาง (Queen's Road Central) และถนนไอซ์เฮาส์ และต่อมาเคลื่อนตัวมายังแถบค็อตตอนทรีไดรฟ์ว ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ส่วนการจับกุมเกิดขึ้นหลังจากมีการปะทะและเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณถนนราชินีกลาง
นอกจากประเด็นหลักในการเรียกร้องแล้ว ผู้ประท้วงยังต้องการให้รัฐบาลมีนโยบายการจ่ายเงินสงเคราะห์ เรียกร้องปกป้องสิทธิเกย์ ตลอดจนยุติแผนการพัฒนาเขตนิว เทอริทอรีของฮ่องกงเสีย
แจ็คกี้ ฮุงหลิง อี๋ว์ จากกลุ่มสิทธิพลเรือนเผยว่า พวกเขาพอใจกับผลลัพธ์ "ขณะนี้สิ่งที่พวกเขาต้องการได้ส่งไปถึงรัฐบาลกลางแล้ว รัฐบาลได้ยินเสียงของประชาชนฮ่องกงมากขึ้น"
เจิ้ง เย่าถัง สมาชิกสภาบริหารแห่งฮ่งกงผู้จัดการกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลจีนออกเดินขบวนเผยว่า พวกเขาต้องการสิ่งแวดล้อมที่มีเสถียรภาพ เพื่อให้เหลียงมีสมาธิดำเนินนโยบายทำงานต่อไป
อย่างไรก็ดีมีรายงานข่าวว่า มีการปะทะกันเล็กน้อยระหว่างสองกลุ่มที่เห็นไม่ตรงกัน มีการจับกุมชายหนึ่งคนข้อหาทำลายธงประจำฮ่องกง
นักวิเคราะห์ทางการเมืองเผยว่า รัฐบาลของเหลียงจะกลายเป็นรัฐบาลที่ไร้ความหมาย และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะกลายเป็นช่วงที่เหลียงต้องรักษาตำแหน่งไว้ให้มั่น
ศาสตราจาย์ลุ่ย ไต้ล็อก นักสังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกงเผยว่า "เหลียงได้เผชิญแรงกดดันทางการเมืองมาแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เขาไม่ได้อธิบายหรือแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนเรื่องสิ่งก่อสร้างผิดกฎหมายในบ้าน"
โจเซฟ หว่อง วิงผิง อดีตเลขาธิการของซีวิลเซอร์วิส เผยว่า อีกสองเดือนข้างหน้าจะเป็นเดือนที่รัฐบาลของเหลียงต้องเผชิญชะตากรรมอย่างหนัก "การประกาศนโยบายและการจัดการงบประมาณในสัปดาห์หน้านี้จะเป็นตัวชี้วัด และต้องคอยดูว่าเหลียงจะสามารถดึงจุดสนใจหันเหความร้อนแรงของประชาชนได้หรือไม่ หากว่าเหลียงไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่ประชาชนวิตกกังวลได้ วันที่ 1 ก.ค. ก็จะเป็นวันของการเปลี่ยนแปลง"
เมื่อคืนที่ผ่านมา โฆษกรัฐบาลได้ออกมาเผยว่า สิ่งที่ผู้ประท้วงเรียกร้องนั้นรัฐบาลจะรับฟังอย่างมีมารยาท เขากล่าวเพิ่มเติมว่า เหลียงกำลังตั้งอกตั้งใจในการประกาศนโยบาย ซึ่งจะเน้นการแก้ปัญหาไปสู่เรื่องการครองชีพและประเด็นด้านเศรษฐกิจ
นางแครี แลม ประธานเลขาธิการฝ่ายบริหารฮ่องกงเผยว่า เธอหวังว่าการเดินขบวนจะมีการจัดการอย่างสันติ มีเหตุผลและอดทนรับฟังความเห็นอย่างสุภาพ
ขณะที่สมาชิกของกลุ่มสภาวิจารณ์การทำงานตำรวจอิสระก็ได้ออกไปสังเกตการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมขบวนประชาชนด้วย