เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ศาลประชาชนสูงสุดของจีนออกคำสั่งให้ศาลทั่วทั้งแผ่นดินเพิ่มบทลงโทษให้หนักหนาสาหัสกว่าที่แล้วมาในการพิพากษาคดีข่มขืนเด็ก หรือทารุณกรรมอื่น ๆ หลังจากเกิดคดีข่มขืนเด็กถี่ขึ้น จนประชาชนเริ่มทนไม่ไหว
นอกจากการออกคำสั่งดังกล่าวแล้ว เมื่อวันพุธ ( 29 พ.ค.) ศาลประชาชนสูงสุดยังได้มีการเปิดเผยคดีข่มขืนและกระทำทารุณกับเด็ก ที่เกิดขึ้น 3 ราย ซึ่งคดีหนึ่งครูผู้ก่อเหตุได้ถูกประหารชีวิตไปแล้ว โทษฐานข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 หลายคน
เซียว์ ซู่หลัน ผู้พิพากษาสมทบในศาลประชาชนสูงสุดกล่าวกับไชน่าเนชั่นแนลเรดิโอว่า พวกครูที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนหญิงต้องถูกลงโทษให้หนัก ซึ่งอาจถึงขั้นประหารชีวิต และคนเหล่านี้ไม่ควรได้รับความเมตตาใด ๆ ทั้งสิ้น
ด้านชาวเน็ตบนแผ่นดินใหญ่วิพากษ์วิจารณ์สมาพันธ์สตรีจีนทั้งมวล (All China Women’ s Federation) ว่า ทำงานล้มเหลวในการปกป้องเด็กผู้หญิง พร้อมกับเตือนบรรดาครูใหญ่และครูน้อย ซึ่งมีความโน้มเอียงของความผิดปกติแตกต่างจากผู้อื่น ให้อยู่ห่าง ๆ จากเด็กนักเรียนไว้
ครูที่ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตรายดังกล่าวมีอายุ 47 ปี ได้ลงมือข่มขืนเด็กนักเรียนหญิง 7 คนมาตั้งแต่ปี 2552-2554 อย่างไรก็ตาม ศาลมิได้เปิดเผยว่า เหตุเกิดที่ใด นอกจากนั้น ครูผู้นี้ยังบังคับให้เด็กดูวิดีโอลามก และถ่ายรูปเด็ก ขณะถูกข่มขืนอีกด้วย
สำหรับอีก 2 คดี ศาลประชาชนสูงสุดระบุว่า เป็นคดีแม่เลี้ยงทรมานลูกเลี้ยง ซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 5 ขวบจนถึงแก่ความตาย โดยศาลได้ตัดสินโทษประหารชีวิตแม่เลี้ยงใจยักษ์ แต่ให้รอลงอาญา ส่วนอีกคดีนั้นศาลตัดสินจำคุกชายผู้หนึ่งเป็นเวลา 4 ปี โทษฐานยุยงให้วัยรุ่นก่อเหตุชิงทรัพย์
นอกจากการเปิดเผยของศาลประชาชนสูงสุดแล้ว เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ยังเกิดเหตุเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถูกครูใหญ่และเจ้าหน้าที่โรงเรียนข่มขืนในเมืองวั่นหนิง มณฑลไห่หนาน
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานเมื่อวันพุธ (29 พ.ค.) ว่า ตำรวจมณฑลไห่หนานยังถูกกล่าวหาด้วยว่า พยายามลดความสำคัญของคดีนี้ โดยระบุว่า ผู้ต้องสงสัยมิได้มีเพศสัมพันธ์กับเด็ก แม้ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่า มีการข่มขืนจริงก็ตาม
นอกจากนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพ่อแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายเหล่านี้ได้ว่าจ้างทนายความ 7 คน เพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีผู้ต้องสงสัย และพยายามตั้งข้อหาต่อตำรวจว่า ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ แต่ต่อมาพ่อแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายก็ได้เลิกว่าจ้างทนายความเสียแล้ว เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนัก และเป็นห่วงความปลอดภัยของตนเอง
ถึงกระนั้นก็ตาม พ่อของเด็กหญิงผู้เสียหายคนหนึ่งก็ยังกล้าบอกว่า เขาอยากเห็นผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ถูกประหารชีวิต