xs
xsm
sm
md
lg

แผ่นดินไหว พรากชีวิตและความหวัง ของครอบครัวลูกคนเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัย กำลังปรับซ่อมถนนหนทาง สำหรับส่งกำลังให้ความช่วยเหลือ ชาวบ้านหมู่บ้านกู่เฉิง ตำบลหลงเหมิน อำเภอหลูซาน เมืองหยาอัน มณฑลเสฉวน หลังเหตุแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์ เช้าวันที่ 20 เม.ย. ขณะที่มีรายงานว่า รถบรรทุกทหารกู้ภัย ประสบเหตุตกเหว ทำให้ทหารเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บ 7 นาย (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี - สื่อต่างประเทศรายงานชะตากรรมของครอบครัว อู่ หยง ซึ่งสูญเสียบุตรชายคนเดียว ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากสิ้นหวัง และรู้สึกถึงอันตราย ต้องการย้ายออกจากพื้นที่ แต่ก็ไม่รู้จะต้องไปเริ่มต้นใหม่กันอย่างไร

สื่อต่างประเทศรายงาน (21 เม.ย.) ชะตากรรมของครอบครัว อู่ หยง ซึ่งสูญเสียบุตรชายคนเดียว ของครอบครัว ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว รุนแรงขนาด 7.0 ริกเตอร์ ที่มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ของจีนที่เมืองหยาอาน อำเภอหลูซาน เมื่อเวลา 08.02 น.เช้าวันเสาร์ (20 เม.ย.) ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก

นายอู่ หยง วัย 42 ปี กล่าวถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมของครอบครัวว่า ตนเองเห็นลูกชายได้รับบาดเจ็บถูกเศษปูนทับร่าง แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตลูกได้

“บ้านเราพังถล่มลงมาทั้งหลัง ผมพยายามมุดไปหาเขาในห้องซึ่งกลายเป็นกองอิฐ ร้องเรียกเขา และได้ยินเสียงเขาตอบกลับมา 2 ครั้ง โดยขณะเกิดเหตุ นางเยว่ ยิ่งกุ้ย ภรรยาวัย 38 ปี ของตน กับเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ด้านนอกฯ ก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ และพยายามเข้ามาช่วยพวกเรา”

รายงานข่าว กล่าวว่า นายอู่ หยง รอดชีวิตจากเหตุการณ์ แต่ บุตรชายวัย 15 ปี คนเดียวของครอบครัวเสียชีวิต และเช่นเดียวกับชะตากรรมของหลายๆ ครอบครัวที่มีลูกคนเดียว ในหลงเหมิน อำเภอหลู่ซาน ซึ่งเปลี่ยนไปหลังจากเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา

อู่ จื่อ เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว เสียชีวิตในวัย 15 ปี เขามีพี่สาวหนึ่งคน โดยในตระกูลของตนนั้น มีเขาเป็นทายาทเพศชายคนเดียว และลุงเด็กผู้ตายกล่าวว่า พวกเขาเคยมีความหวังสำหรับอนาคต แต่วันนี้ ครอบครัวนี้ไม่เหลือความหวังที่เคยมี นอกจากความเศร้าตรงหน้า

นายอู่ ผู้เป็นพ่อ พูดถึงลูกชายว่า เป็นเด็กอ่อนโยน มีอารณ์ขัน มีเพื่อนมาก พอรู้ว่าเขาเสียชีวิต เพื่อนๆ และคนที่รู้จักได้มาช่วยกันจัดพิธีแห่ขบวนศพขึ้นไปตามถนนที่ตอนนี้พัง สูงชัน แคบ และยังเสี่ยงกับแรงสั่นสะเทือนที่ตามมาหลายครั้ง

นางจู่ วัย 88 ปี เป็นชาวบ้านอีกคนที่รอดชีวิตมากับ ทายาทวัย 2 ขวบของครอบครัว โดยเธอจะมัดร่างของทารกติดตัวตลอดเวลา และอาศัยอยู่กลางแจ้งจนกว่าจะมั่นใจว่า ไม่มีแผ่นดินไหวแล้วจึงจะยอมกลับเขาไปในบ้าน และระหว่างนี้ ก็ได้แต่อาศัยหุงต้มบะหมี่กินประทังชีวิต เหมือนๆ กับชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้าน

นายหยัง วัย 45 ปี ชาวบ้านหลู่ซาน คนหนึ่ง กล่าวกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี สะท้อนความรู้สึกอันสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบอกว่า เขตที่พวกเราอยู่มีอันตรายมาก เพื่อนบ้านหลายๆ คนไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกแล้ว แต่พวกเราก็ไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน และไม่รู้จะต้องไปเริ่มต้นใหม่กันอย่างไร เวลานี้ เราไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ

ทั้งนี้ ในสังคมครอบครัวชาวจีนซึ่งถือนโยบายลูกคนเดียวนั้น การสูญเสียบุตรในครอบครัว นับเป็นความโศกเศร้าที่ไม่อาจหาอะไรมาทดแทนได้ และยิ่งสำหรับบางตระกูลนั้น มีทายาทเพศชายคนเดียว ความโศกเศร้ายิ่งไม่อาจเปรียบเทียบ ขณะที่ปัจจุบัน สังคมจีนกำลังเปลี่ยน จึงมีเสียงเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนทั้งค่านิยม และวัฒนธรรมทั้งหลายอันเกิดจาก นโยบายลูกคนเดียว มากขึ้น จนกระทั่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกฎ ในปี พ.ศ.2551 โดยให้ยกเว้น สำหรับครอบครัวที่ทายาทเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ หรือหายสาบสูญ จากเหตุแผ่นดินไหว









กำลังโหลดความคิดเห็น