เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์- หลังจากได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ยอมอ่อนข้อให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะแล้ว โดยออกประกาศผ่อนโทษให้ผู้ฝ่าสัญญาณไฟเหลืองได้รับการตักเตือนอบรม โดยยังไม่บังคับใช้บทลงโทษตามข้อบังคับผู้ขับยานยนต์ฉบับปรับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อวันแรกของปีมะเส็ง (1 ม.ค. 56)
ภายหลังจากที่รัฐบาลจีนออกกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยจากการคมนาคมบนท้องถนน โดยมุ่งเน้นไปยังหน้าที่ของไฟเหลือง คือ การสร้างความปลอดโปร่งให้กับทางแยกบนท้องถนน เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างยานยนต์ ไฟเหลืองจะเตือนให้ยานยนต์ที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของรถผ่านเส้นหยุดรถไปแล้ว เร่งเครื่องให้พ้นจากทางแยกก่อนที่ไฟแดงจะขึ้น เมื่อไฟเหลืองดับลงยานยนต์ที่ผ่านเส้นหยุดรถไปแล้วสามารถวิ่งต่อไปได้ ส่วนคันที่ยังไม่ผ่านเส้นหยุดรถต้องเริ่มเบรกในจังหวะเดียวกับที่ไฟแดงปรากฏ เพราะฉะนั้นผู้ที่ฝ่าไฟเหลืองจึงถือว่าทำผิดกฎจราจร ตามข้อบังคับใหม่เลขที่ 123 ระบุให้ผู้ฝ่าฝืนถูกตัดแต้มใบขับขี่ 6 คะแนนหรือครึ่งหนึ่งจาก ทั้งหมด 12 คะแนนนั้น ยังให้เกิดสงครามน้ำลายว่อนอินเตอร์เน็ตอย่างเชี่ยวกราด
กลุ่มผู้ต่อต้านมองว่ากฎเหล็กนี้ขัดกับกฎธรรมชาติที่การเคลื่อนของรถยนต์ในความเร็วปรกติไม่สามารถจะหยุดเคลื่อนไหวได้ฉับพลันทันทีที่เห็นสัญญาณไฟเหลือง และบางส่วนก็ให้ความเห็นว่าการหยุดรถกะทันหันจะทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ส่งผลให้กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ประกาศในวันอาทิตย์(6 ม.ค.) ระบุผู้ขับขี่ที่ฝ่าสัญญาณไฟเหลืองยังไม่ต้องรับโทษใดๆ เพียงแต่โดนตักเตือนอบรมเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความพยายามประนีประนอมของเจ้าหน้าที่รัฐ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีผู้เกี่ยวข้องยังกล่าวต่อว่า ประกาศนี้เป็นการผ่อนปรนให้แก่ปฏิกิริยาการต่อต้านของสังคม และรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรเพิ่มเติมในอันดับถัดไป
อนึ่ง จาการสำรวจขององค์การอนามัยโลก พบว่า ในแต่ละปีสาธารณรัฐประชาชนจีนมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรมากกว่า 250,000 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 15 ปี ถึง 44 ปี