เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นักข่าวหนังสือพิมพ์ชั้นนำในก่วงตง "เซาเทิร์น วีคลี่" แสดงการท้าทายเจ้าหน้าที่พรรคแดง (3 ม.ค.) หลังจากที่ฝ่ายโฆษณาการของพรรคในมณฑลฯ มีคำสั่งให้ลงบทความยกยอปอปั้นพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมสั่งให้ตัดบทความวิจารณ์สถาบันการเมืองออก
การท้าทายรัฐบาลเป็นสิ่งที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้น ทว่านักข่าวของเซาเทิร์นวีคลี ก็เผยว่า พวกเขารู้สึกไม่พอใจอย่างแรงเมื่อเจ้าหน้าที่ฯ มีคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงเนื้อหาในสิ่งพิมพ์ฉบับแรกของปี โดยมาบอกให้เปลี่ยนก่อนที่จะส่งไปโรงพิมพ์เพียงวันเดียว โดยที่เนื้อหาเก่านั้นบรรณาธิการใหญ่ก็ได้เซ็นกำกับเห็นชอบพร้อมกับเลิกงานไปแล้ว
บางคนก็โกรธมากที่พาดหัวถูกเปลี่ยนเป็น "สู่ความฝัน" ซึ่งหมายถึงคนจีนกำลังใกล้จะบรรลุถึงความฝันของพวกเขา เนื่องจากการทำงานหนักของพรรคคอมมิวนิสต์ บรรดานักข่าวเชื่อว่าคำสั่งเปลี่ยนแปลงการลงข่าวดังกล่าวเป็นฝีมือของหัวหน้าฝ่ายโฆษณาการ นายทัว เจิน นอกจากนั้นนักข่าวยังวิจารณ์ว่าเนื้อหาใหม่ที่ให้ลงนั้นมีส่วนที่บิดเบือนไปจากความจริง
พวกเขากล่าวว่า ฝ่ายโฆษณาการฯ กำลังบีบบังคับขืนใจกระชากอิสรภาพไปจากนักข่าว ขณะที่ก็ยอมรับว่าหนังสือพิมพ์ไม่อาจปฏิเสธการลงข่าวที่เจ้าหน้าที่ต้องการได้ ทว่าพวกเขาก็ยังคงแสดงการท้าทายด้วยการเปิดไมโครบล็อกและเขียนเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ระบายความรู้สึก ต่อมาไม่นานก็ถูกทางการลบออก นักข่าว 15 คนถูกระงับการใช้ไมโครบล็อกหลังจากพวกเขาเข้าไปแสดงความเห็นถกเถียงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ข้อความแบบเปิดที่พวกเขาเขียนระบุว่า "พวกเราเรียกร้องให้มีการไต่สวนเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่บรรณาธิการที่ทำงานอย่างถูกต้องถูกละเมิดสิทธิ์ และมีการก่อความเสียหายอย่างรุนแรงต่อกระบวนการพิมพ์สื่อสู่สาธารณชน"
ครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก ที่นักข่าวรวมตัวกันแบบโจ่งแจ้งท้าทายอำนาจเจ้าหน้าที่พรรคฯ เพราะการกระทำดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อภัยที่ตามมา พวกเขาอาจตกงานหรือถูกเจ้าหน้าที่รังความไม่หยุดหย่อน ทว่านักข่าวกลุ่มดังกล่าวเผยว่า เจ้าหน้าที่กองบรรณาธิการของสำนักข่าวต่างเห็นชอบและกำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ก็ไม่ได้บอกว่าพวกเขาจะรวบรวมรายชื่อนักข่าวที่ไม่เห็นชอบกับการกระทำของเจ้าหน้าที่หรือไม่
นักข่าวคนหนึ่งเผยว่า "พวกเราไม่มีทางอื่นที่จะระบายความคับแค้นใจแล้ว"
ซู หย่งทง บรรณาธิการคนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฯ ระบุในไมโครบล็อกว่า หนังสือพิมพ์เดิมมีแผนจะพาดหัวรับขวัญปีใหม่ว่า "ฝันของจีน ฝันจะมีรัฐธรรมนูญ" และจะเขียนรายละเอียดในบทความว่า ประชาชนจีนจะสามารถบรรลุฝันของตนได้ก็ต่อเมื่อจีนมีรัฐธรรมนูญที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนเท่านั้น
ทว่าบทความดังกล่าวก็กลับถูกตัดทอนลงมาเป็นบทความขนาดเล็ก และเปลี่ยนพาดหัวเป็น "ความฝันเป็นพันธสัญญาของพวกเรา พวกเราต้องบรรลุสิ่งปรารถนาให้จงได้" ต่อมาพาดหัวดังกล่าวก็ถูกเปลี่ยนเป็น "พวกเราใกล้ถึงความฝันมากกว่ายุคใด ๆ"
ในจดหมายเปิดผนึก นักข่าวเผยว่า ข้อความพาดหัวที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาดังกล่าวถือว่ามีความผิดพลาดบิดเบือนความจริง เนื่องจากบทความเริ่มต้นเนื้อหาด้วยการกล่าวถึงอี๋ว์ ผู้สามารถช่วยเหลือผู้คนให้รอดพ้นจากอุทกภัยเมื่อ 2,000 ปีที่ผ่านมา ทว่าตามตำนานจีนจริง ๆ อี๋ว์นั้นเป็นเรื่องเล่าในยุคจีนโบราณ เก่าแก่ก่อนคริสตกาลถึง 2,200 ปี
จดหมายเปิดผนึกยังคงวิจารณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายโฆษณาการว่า ได้ปลดบทความอภิปรายเรื่องการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นออก ตลอดจนบทความฝนตกหนักทำลายกรุงปักกิ่งหนักสุดในรอบ 6 ทศวรรษเมื่อเดือนก.ค.ปีที่ผ่านมาด้วย
นักข่าวเผยว่า พวกเขาเชื่อว่าคำสั่งเปลี่ยนแปลงบทความต่าง ๆ เหล่านี้มาจากนายทัว อดีตรองประธานผู้บริหารของสำนักข่าวซินหวาของจีน พร้อมกับเรียกร้องให้นายทัวเลิกก้าวก่ายการทำงานของสื่อมวลชน
นักข่าวคนหนึ่งเผยว่า "ผมเคยทำงานหนังสือพิมพ์มาก่อน ซึ่งพวกเราก็ต้องส่งเนื้อหาให้เจ้าหน้าที่รับรองการตีพิมพ์ แต่ครั้งนี้รับไม่ได้ เนื่องจากหัวหน้าฝ่ายโฆษณาการใช้อำนาจบาตรใหญ่สั่งให้สื่อในการดูแลของตนลงพิมพ์บทความตามใจตัวเอง"
หนังสือพิมพ์ฯ มีประเพณีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า หากรับขวัญปีใหม่จะมีการลงบทความที่เกี่ยวกับสิทธิของประชาชนเป็นหลัก ทว่า ผู้คนที่ใกล้ชิดกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าวก็บอกว่า พวกเขากลัวว่าหนังสือพิมพ์ฯ จะถูกสั่งปิดเข้าสักวัน