จีนเตรียมสอบอียูทุ่มตลาดโซลาร์เซลล์

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนแก้เผ็ดสหภาพยุโรป หรืออียู เตรียมเปิดการสอบสวนกรณีอียูทุ่มตลาดและให้เงินอุดหนุนแก่บริษัทของตนในการผลิตโซลาร์เกรดโพลี่ซิลิคอน (solar-grade polysilicon) ซึ่งส่งมาขายยังแดนมังกร
นับเป็นมาตรการตอบโต้อียูล่าสุดท่ามกลางความตึงเครียด ที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในโลก หลังจากคณะผู้บริหารของอียูกำลังพิจารณาจัดเก็บภาษี โดยพุ่งเป้าไปที่บริษัทผู้ผลิตโซลาร์เซลล์ของจีน

อียูเริ่มการสอบสวนเรื่องดังกล่าวในเดือนก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากหลายบริษัทกล่าวหาบริษัทคู่แข่งจากจีนว่า มีการทุ่มตลาด โดยระบุว่า บริ๋ษัทผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์ของจีนได้รับประโยชน์จากนโยบายอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำของรัฐบาล และได้รับวงเงินสินเชื่ออย่างฟุ่มเฟือย ทำให้บริษัทของจีนผลิตสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่า

กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (1 พ.ย.) ว่า การสอบสวนการทุ่มตลาดของอียูจะรวมเข้ากับการสอบสวนสินค้าเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เป็นผู้ผลิต ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ เพื่อประเมินผลกระทบของสินค้าจากชาติทั้งสาม หลังจากได้รับการร้องเรียนจากบริษัทของจีน เช่น บริษัท Jiangxi LDK PV Silicon Technology ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ LDK Solar บริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์รายหนึ่งของจีน ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากสินค้าล้นสต็อก อันเนื่องมาจากกำลังการผลิต ที่ล้นเกิน และความต้องการซื้อแผงโซลาร์จากต่างชาติลดลง ในขณะที่ชาติยุโรปลดการให้เงินอุดหนุนพลังงานสะอาด

แผงโซลาร์ ที่มีล้นสต็อกนี้ทำให้บริษัทของจีนต้องลดราคาสินค้าลงถึงร้อยละ 30 ในปีนี้ ซึ่งทำให้กำไรของบริษัทพลอยหดตามไปด้วย

ขณะนี้บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ของจีน เช่น Sumtech Power Holdings และ Trina Solar กำลังหันกลับมายังตลาดในประเทศ ซึ่งปัจจุบันนับเป็นตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกสำหรับการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์

ทั้งนี้ บริษัทจีนขายแผงโซลาร์ละชิ้นส่วนประกอบให้แก่อียูเป็นมูลค่าราว 21,000 ล้านยูโรในปี 2554 หรือราวร้อยละ 60 ของการส่งออกทั้งหมดของจีน และราวร้อยละ 7 ของการส่งออกไปยังอียูทั้งหมดของจีน

ขณะที่ยุโรปเป็นตลาดสินค้าเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์อันดับหนึ่ง โดยมีการติดตั้งแผงโซลาร์มากถีงร้อยละ 74 ของการติดตั้งในโลกเมื่อปี 2554 จากข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรม EPIA