เอเยนซี - จีนมั่นใจ ผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาสสุดท้ายจะดีขึ้นเป็นลำดับ หลังเดือนกันยายน ตัวเลขการส่งออกพุ่งขึ้น และสามารถบรรลุเป้าหมายขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้ ตามที่รัฐบาลตั้งไว้ร้อยละ 7.5
สื่อจีนรายงาน (25 ต.ค.) อ้างคำแถลงของ นายจู หงเหริน กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนกำลังมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากประสิทธิผลของมาตรการกระตุ้นต่างๆ ของรัฐบาล
นายจู กล่าวว่า ในไตรมาส 4 นี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรม มีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วขึ้น และจะมีความแข็งแกร่งพอที่จะฉุดผลผลิตให้บรรลุเป้าหมายขยายตัวเศรษฐกิจในปีนี้ ตามที่รัฐบาลตั้งไว้ร้อยละ 7.5
รายงานข่าวกล่าวว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมา แม้อุปสงค์จากต่างประเทศจะซบเซา และภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน มีผลกระทบจากการค้าโลก และทำให้ผลประกอบการของภาคเอกชนลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรมบางส่วน ยังมีปัญหากำลังการผลิตส่วนเกิน แต่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ยังขยายตัวร้อยละ 10 เมื่อเทียบรายปี
ด้าน กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผย (25 ต.ค.) เช่นกันว่า ในเดือนก.ย. การส่งออกขยายตัวร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี มูลค่า 1.86 แสนล้านดอลลาร์ โดยพุ่งขึ้นจากร้อยละ 2.7 ในเดือนส.ค. และร้อยละ 1 ในเดือนก.ค. ตามลำดับ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในไตรมาส สุดท้ายของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศของจีนจะยังคงปรับตัวขึ้นได้อีก
ทั้งนี้ สื่อจีนรายงานว่า ในไตรมาส 3 เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยชะลอตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 7 และถือเป็นการปรับตัวที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ขณะที่ การค้าระหว่างประเทศของจีนในช่วง 9 เดือนแรก มีมูลค่าอยู่ที่ 2.84 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี
ก่อนหน้านี้ สื่อต่างประเทศได้เผยผลการสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ของ HSBC ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวภาคอุตสาหกรรมของจีน ได้เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสามเดือนอยู่ที่ 49.1 ในเดือนต.ค. นับเป็นมาตรวัดค่าเศรษฐกิจจีนที่เผยล่าสุด หลังจากรัฐบาลจีนเผยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีว่าตกต่ำกว่าคาดการณ์ในไตรมาสที่สามของปี แม้ว่าเดือนที่ผ่านมาจะเคยมีสัญญาณว่าจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
การเพิ่มขึ้นของดัชนีพีเอ็มไอ กอปรกับการเพิ่มขึ้นของยอดสั่งจองการผลิตสินค้าใหม่และปริมาณการผลิต ตลอดจนยอดการส่งออกที่ดีดตัวขึ้น สินค้าคงคลังและราคาสินค้าที่มีการขยับปรับเปลี่ยน ทั้งหมดนี้ถือเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่ดีของมหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองของโลกอย่างจีน
การประกาศค่าพีเอ็มไอในครั้งนี้ ตามหลังการประกาศผลสำรวจของรอยเตอร์สเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 ต.ค.) และตามหลังการประกาศค่าจีดีพีของรัฐบาลจีน ซึ่งเผยคาดการณ์ทางเศรษฐกิจแดนมังกรว่าการเติบโตจะมีการกระเตื้องขึ้นในระดับกลาง ในไตรมาสสี่ของปี อยู่ที่ร้อยละ 7.7
