บ.แผ่นดินใหญ่คว้าส่วนแบ่งเพิ่มในธุรกิจอันเดอร์ไรต์ฮ่องกง

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ธนาคารบนแผ่นดินใหญ่กำลังผงาดบทบาทการเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้น (underwriter) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอ หรือการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนเป็นครั้งแรกให้แก่บริษัทจีน ที่ต้องการเข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

ชื่อของบริษัทวาณิชธนกิจบนแผ่นดินใหญ่หลายราย เช่น ไชน่าอินเตอร์เนชั่นแนลแคปปิตอลคอร์ป (CICC) และบีโอซีอินเตอร์เนชั่นแนล (BOCI) เริ่มปรากฎบ่อยมากขึ้นในรายชื่อของสถาบันการเงิน ที่เข้ามาเป็นผู้ค้ำประกันการขายหุ้นไอพีโอรายใหญ่ ๆ ในช่วงไม่กี่ปีทีผ่านมาจากเดิม ที่ธุรกิจไอพีโอบนเกาะฮ่องกงอยู่ในกำมือของบริษัทวาณิชธนกิจของอเมริกาและยุโรป เช่น เจพีมอร์แกน และซิติกรุ๊ป

CICC ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งถือเป็นผู้นำในธุรกิจวาณิชธนกิจบนแผ่นดินใหญ่ แต่ก็มีประวัติความเป็นมาสั้น ๆ หากเทียบกับบริษัทวาณิชธนกิจของอเมริกา โดยสถาบันการเงินแห่งนี้ดำเนินกิจการโดยนายเลวิน จู บุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีจู หรงจี

ส่วน BOCI ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง เป็นสาขาด้านวาณิชธนกิจของแบงก์ออฟไชน่า อันเป็นธนาคารหนึ่งในกลุ่มธนาคารสินเชื่อบิ๊กโฟร์ของรัฐบาลจีน ดำเนินกิจการโดยหลี่ ถง บุตรสาวของนายหลี่ ฉังชุน หัวหน้าฝ่ายโฆษณาการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และผู้นำระดับสูงหมายเลข 5 ของจีน

นายวาณิชธนกิจผู้ช่ำชองประสบการณ์ผู้หนึ่งระบุว่า นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2551 การแข่งขันในธุรกิจวาณิชธนกิจบนเกาะฮ่องกงได้เปลี่ยนแปลงไป โดยธนาคารของตะวันตกบางรายกำลังถอนตัวออกไป ขณะที่บริษัทบนแผ่นดินใหญ่กำลังรุกเข้ามามากขึ้น

ตัวอย่างหนึ่ง ที่เห็นได้ชัดก็คือในการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของบริษัทวาณิชธนกิจกว่าสิบรายเมื่อเดือน ที่แล้ว เพื่อช่วงชิงการทำสัญญารับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ออกใหม่ของบริษัทฮุยซานแดรี่ ( Huishan Dairy) ที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้า

ฮุยซานต้องการออกหุ้นใหม่ เพื่อระดมทุนให้ได้ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และต้องการทีมธนาคาร ที่มีประสบการณ์หลากหลาย เพื่อขายหุ้นให้แก่นักลงทุน ที่มีศักยภาพได้อย่างกว้างขวางขึ้น โดยคาดว่า BOCI และซิติกซีเคียวริตี้ส์อินเตอร์เนชั้นแนล ซึ่งเป็นสาขาในฮ่องกงของซิติกซีเคียวริตี้ส์ บริษัทโบรกเก้อร์ชั้นนำของจีน น่าจะได้ทำสัญญานี้ร่วมกับโกลด์แมนแซคส์ และด๊อยช์แบงก์

บริษัทวาณิชธนกิจบนแผ่นดินใหญ่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในธุรกิจจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอก็เนื่องจากสาเหตุหลายประการ อาทิ บริษัทวาณิชธนกิจชาติตะวันตกหลายรายกำลังขาดเงินสดในมือ หรือจำเป็นต้องจัดสรรแหล่งทุนทรัพย์กลับไปแก้ปัญหาของบริษัทในประเทศของตนเองมากขึ้น แทนการมุ่งเน้นการทำธุรกิจในฮ่องกง

นอกจากนั้น บริษัทวาณิชธนกิจบนแผ่นดินใหญ่ยังมีเส้นสายใกล้ชิดกับรัฐวิสาหกิจ ที่ร่ำรวยเงินทุนของจีน และรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ได้กลายเป็นผู้ซื้อหุ้นไอพีโอของหลายบริษัท ที่เสนอขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่อกงในปีนี้

ขณะเดียวกันทักษะความชำนาญในการดำเนินธุรกิจในท้องถิ่น ซึ่งบางกรณีอาจมีสภาพแตกต่างอย่างมากจากที่นายวาณิชธนกิจตามเมืองศูนย์กลางการเงินอย่างฮ่องกง และนิวยอร์กคุ้นชิน ก็มีส่วนสร้างความได้เปรียบแก่บริษัทวาณิชธนกิจบนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย