xs
xsm
sm
md
lg

ธ. จีน ป้อน 1.3 ล้านล. เพิ่มสภาพคล่องฯ เตรียมอีก 1.2 หมื่นล้าน หนุนเอกชนฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลการเงินโลกจากการจัดอันดับของบลูมเบิร์กฯ กับภารกิจในการกุมนาวาเศรษฐกิจและการเงินจีน ในช่วงมรสุมเศรษฐกิจจีนชะลอตัว วิกฤติหนี้ยุโรป และสหรัฐฯ (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี - ธนาคารกลางจีน อัดฉีดเงิน2.65 แสนล้านหยวน เข้าสู่ระบบการเงินการธนาคารของประเทศเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ พร้อมเตรียมอนุมัติเงินอุดหนุนกว่า 2,500 ล้านหยวนให้แก่บริษัทนำเข้าในประเทศ หวังกระตุ้นตลาดการเงินการลงทุน และส่งสัญญาณให้นักลงทุนเชื่อมั่นในมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของจีน

สื่อจีนรายงาน (11 ต.ค.) อ้างการเปิดเผยรายงานล่าสุดของกระทรวงการคลังจีน เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ระบุว่า ธนาคารกลางเตรียมอนุมัติเงินอุดหนุน มูลค่าสูงถึง 2,500 ล้านหยวน (ราว 1.23 หมื่นล้านบาท) ให้แก่บริษัทนำเข้าในประเทศ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมทั้งกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพทางการค้าของประเทศ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะก่อนหน้านี้ ในสัปดาห์เดียวกัน ธนาคารกลางก็ได้อัดฉีดเงินถึง 2 ครั้ง เข้าสู่ระบบการเงินการธนาคารของประเทศ

รายงานฯ ระบุว่า เงินซึ่งจัดสรรมาจากงบประมาณกลาง จะนำมาใช้เป็นเงินอุดหนุนดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ของเงินทุนสนับสนุนจากธนาคารกลางที่จัดให้เมื่อปีที่แล้วถึง โดยก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่ปี 2551 ธนาคารกลางได้จัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่บริษัทนำเข้าไปแล้ว รวมมูลค่าสูงถึง 9,500 ล้านหยวน

พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลังของจีน ยังได้ประกาศระงับการจัดเก็บภาษีการตรวจสอบและกักกันสินค้าทุกชนิด ที่นำเข้าและส่งออกจากประเทศจีนเป็นการชั่วคราวไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อปกป้องบรรดาบริษัทผู้ส่งออกและนำเข้าต่างๆ ของประเทศ จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก

รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงิน ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองเป็นวงเงินสูงถึง 2.65 แสนล้านหยวน (1.3 ล้านล้านบาท) เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการป้อนกระเสเงินสดรายวันครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ ของธนาคารกลาง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังชะลอตัว หลังจากที่ ก่อนหน้านั้นในเวลาใกล้ๆ กัน ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 1.65 แสนล้านหยวน ผ่านการซื้อพันธบัตร โดยมีสัญญาขายคืนระยะ 7 วัน ในระดับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.35

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนเคยใช้มาตรการฯ อัดฉีดนี้มาแล้ว เพื่อลดสภาพการเงินที่ตึงเขม็งให้มีความคล่องตัวขึ้น โดยป้อนเงินเข้าสู่ตลาดเป็นวงเงินสูงถึง 2.90 แสนล้านหยวน ซึ่งสูงเป็นสถิติการอัดฉีดเงินรายวัน ทำให้ล่าสุด จำนวนเงินที่ธนาคารอัดฉีดทั้งหมดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงถึง 2.418 ล้านล้านหยวน แล้ว

บรรดานักลงทุนต่างมองว่า สภาพคล่องนี้จะช่วยผ่อนคลายสภาพความตึงเครียดการเงิน นำสู่การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นให้ต่ำลง อันบรรเทาต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทต่างๆ ในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถช่วยเหลือเหล่าผู้ประกอบการในจีน ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวนี้ ขณะที่ ดาริอุส โควาลสิก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากธนาคารเครดิต อะกริคอล กล่าวว่าการอัดฉีดเงินครั้งนี้ พอจะสะท้อนให้เห็นการสนับสนุนนโยบายมุ่งสร้างการเติบโตของธนาคารกลาง

นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติจีน กล่าวว่า ธนาคารกลางจึงจำเป็นต้องปรับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ เศรษฐกิจจีน ที่กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่ พร้อมไปกับการรักษาเสถียรภาพและความต่อเนื่องของนโยบายการเงินของประเทศ

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความพยายามของธนาคารกลาง ภายหลังจากที่สภาพเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และขยายตัวที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยมียอดส่งออกในเดือน ส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.7 ขณะที่ยอดนำเข้าตกลงร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน

จากปัจจัยภายในประเทศ ประกอบกับวิกฤตหนี้ยุโรป และสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ลุ่มๆ ดอนๆ ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต่างเฝ้าจับตามองและเรียกร้องผลักดันให้ธนาคารกลางจีน เร่งประกาศมาตรการให้ความช่วยเหลือภาคส่งออกและนำเข้าของประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการผ่อนคลายกฎข้อบังคับการเงินการลงทุนอันเข้มงวด และเร่งกระบวนการคืนเงินภาษีฯ ช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น