เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ศาลประชาชนจีนยืนยันคำตัดสินของศาลชั้นต้น ปรับศิลปินจอมวิพากษ์ ไอ้ เว่ยเว่ย คดีเลี่ยงจ่ายภาษีมูลค่า 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อวันพฤหัส (27 ก.ย.) นับเป็นการสิ้นสุดกระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายอันยาวนานของไอ้กับรัฐบาลจีน
การแพ้อุทธรณ์ต่อศาลเป็นครั้งที่สองของไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินนักวิจารณ์ผู้โด่งดังนี้ อาจส่งผลให้เขาถูกจับกุมตัว หากว่าเขาไม่สามารถจ่ายค่าปรับที่เหลือ ซึ่งคิดเป็นเงิน 6.6 ล้านหยวนได้
ทั้งนี้ ไอ้ได้จ่ายค่าประกันตัวไปแล้วมูลค่า 8.45 ล้านหยวน ตามที่เจ้าหน้าที่ด้านภาษีกำหนดมา เพื่อจะได้มีอิสระในการต่อสู้คดีภาษีฯ
เมื่อปีที่ผ่านมาไอ้ถูกกักบริเวณเป็นเวลา 81 วัน ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ในต่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในจีน ในครั้งนี้ไอ้เผยว่าเขาจะไม่จ่ายค่าปรับส่วนที่เหลือ เพราะการจ่ายถือเป็นการยอมรับผิดตามกฎหมาย ซึ่งไอ้พยายามต่อสู้ตลอดมาว่าเขาไม่ผิด
ไอ้เผยว่า เขาจะไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะถูกจับหรืออะไรก็ตาม เพราะเขาไม่ได้ทำผิด
"หากผมต้องเข้าคุก ผมก็ไม่อาจทำอะไรได้ ประเทศนี้ไม่เคยมีความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าผมจะจ่าย 6 ล้านหยวน ผมก็ยังไม่อาจหนีคุกได้ อย่างไรเสียหากพวกเขา (รัฐบาล) ไม่กล่าวหาว่าผมผิดก่อนจับขัง พวกเขาก็ต้องมีวิธีอื่นอยู่ดี"
นักเคลื่อนไหวทั้งหลายมองคดีนี้ว่า เป็นการใส่ตะกร้อครอบปากนักวิจารณ์ ที่พร่ำบ่นการทำงานของรัฐบาลจีนเรื่อยมา ในประเด็น นิติธรรม และสิทธิของพลเรือน
ไอ้ วัย 55 ปี ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลประชาชนเขตเฉาหยัง กรุงปักกิ่ง เพื่อให้ศาลเพิกถอนคำพิพากษาโทษปรับคดีเลี่ยงภาษีมูลค่า 15 ล้านหยวน ต่อบริษัทที่ไอ้ทำงานอยู่ นามว่า เป่ยจิง เฟค คัลเจอรัล ดีวีล็อบเมนต์ จำกัด ซึ่งทำการผลิตผลงานศิลปะและออกแบบฯ
ไอ้ใช้เวลาในการต่อสู้ทางกฎหมายเป็นเวลาเกือบห้าเดือนกับเจ้าหน้าที่ด้านภาษีในกรุงปักกิ่ง เขาเผยว่าไม่สามารถจะยื่นอุทธรณ์ต่อไปได้อีกเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายส่วนที่เหลือ 6.6 ล้านหยวน พร้อมเสริมว่า เจ้าหน้าที่ภาษีฯ ไม่ได้กำหนดวันที่ต้องจ่ายอย่างแน่ชัด
ความพยายามของรัฐในการปิดปากไอ้ เว่ยเว่ย มักจะถูกตีกลับด้วยการเดินขบวนต่อต้านโดยกลุ่มผู้เห็นใจไอ้ หลายคนพับเงินจรวดพุ่งเข้าไปในบ้านของไอ้ เป็นการบริจาคช่วยเหลือโทษปรับ บ้างก็ร่วมบริจาคอย่างเป็นทางการ ทำให้ไอ้สะสมเงินได้กว่า 9 ล้านหยวน เขาเผยว่า เขาจะคืนเงินให้แก่ผู้บริจาคจำนวน 30,000 คน ที่ช่วยระดมเงินประกันตัวเขา
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไอ้ ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการตัดสินของศาลได้เป็นครั้งแรก และไม่มีตำรวจสังเกตการณ์ปรากฏตัวในระหว่างฟังฯ ไอ้เผยว่า เขาตะคอกใส่ผู้พิพากษาว่า "ไร้เกียรติ น่าอับอาย"
"ศาลฯ มันไม่ไดั้เคารพหลักการควมจริง หรือให้โอกาศในการพิทักษ์สิทธิ์ส่วนบุคคลแก่ผู้เสียภาษีเลย" เขากล่าวกับนักข่าว
เขาเผยว่า ศาลไม่ได้ปฏิบัติตามหลักกฎหมายฯ ศาลไม่ได้เขียนประกาศแจ้งการพิพากษาคำยื่นอุทธรณ์ก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาสามวัน ศาลเพียงแจ้งภรรยาของเขา นางหลู่ ชิง ทางโทรศัพท์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทนายของไอ้ ผู่ จื้อเฉียง ซึ่งอยู่ในฝรั่งเศส ไม่สามารถกลับมาได้ทันเวลา
การแพ้คดีของไอ้ครั้งที่สองนี้ก็เป็นที่คาดเดาได้ เพราะอย่างไรก็ดี ศาลประชาชนจีนก็อยู่ภายใต้อำนาจพรรคคอมมิวนิสต์ ภายใต้การกำกับทำงานของรัฐ ครั้งนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าปักกิ่งเริ่มจะไม่ทนกับผู็เห็นต่าง ในช่วงใกล้การเปลี่ยนผ่านอำนาจผู้นำระดับสูงในปีนี้