เอเยนซี่--"ผมเกือบโดนรุมทำร้าย" ทันทีที่นาย คาวาฮาระ เคอิชิโร่ นักปั่นจักรยานรอบโลกชาวญี่ปุ่นและอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวที่อี้เหลียง ในมณฑลอวิ๋นหนัน(ยูนนาน) โพสต์ข้อความนี้ในเวยปั๋วของตน ความคิดเห็นจากชาวเน็ตจีนก็หลั่งไหลเข้ามาอย่างถั่งท้น
เหตุการณ์เริ่มจากเมื่อคืนวันอาทิตย์ (16 ก.ย.) นักข่าวได้รับโทรศัพท์จากนายคาวาฮาระ เคอิชิโร่พูดว่า “มีคนจะทำร้ายผม ผมต้องหลบก่อน...”ต่อมาก็มีเสียงตะโกนจากชาวจีนกลุ่มหนึ่งแทรกเข้ามาในสาย
“ตรงถนนสาย 8...ไปเร็วพวกเรา”
นายคาวาฮาระซึ่งกำลังจะเตรียมไปทำงานที่ศูนย์พักพิงมีอันต้องหนีกลับที่พัก ร่างกายเขาไม่ได้รับบาดเจ็บทว่าภายในใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและไม่เข้าใจ
“พวกเขาจะทำร้ายผม ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าผมเป็นคนยังไง”
เช้าวันจันทร์ (17ก.ย.) นายคาวาฮาระ ได้โพสต์ข้อความในเวยปั๋ว(ไมโครบล็อค) ของตนเองว่า
“เมื่อครู่ผมเกือบโดนรุมทำร้าย ถึงผมไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ผม...ปวดใจมาก”
เขาเล่าต่อว่า
“อาสาสมัครอย่างพวกเราจะคอยนำยาและเวชภัณฑ์ต่างๆแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย มีผู้คนจากอู่ฮั่น หนันหยาง ซีอาน เว่ยหนัน มอบยาหนักราว 80 กก.ให้กับพวกเรา ตอนนำยาและเวชภัณฑ์ใส่ไว้ในจักรยานและปั่นขึ้นภูเขานั้นรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่ผมก็ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านตลอดทาง พรุ่งนี้เพื่อนๆนักปั่นจักรยานรอบโลกจากเวียดนามก็จะมาสมทบอีก ผมรู้สึกว่าการช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่แบ่งพรมแดน ไม่แบ่งประเทศ”
หลังจากนั้นไม่นานนัก ชาวเน็ตจีนก็ได้เข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นในเวยปั๋วของนาย คาวาฮาระ เคอิชิโร่ มากมาย โดยมีทั้งผู้ที่ให้กำลังใจ เช่น
“ขอโทษด้วยนะ ดูแลตัวเองให้ดีๆละกัน”
“นายเป็นผู้มีพระคุณกับเมืองจีน ทำดีต่อไปนะ คนที่นายช่วยชีวิตไว้เขาไม่มีวันลืมนายได้หรอก”
“หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์ชาวญี่ปุ่นได้แล้ว ! โดยเฉพาะอาสาสมัครวัยรุ่นที่เดินทางมาจากแดนไกล พวกเขามาเพื่อมาช่วยเหลือชาวจีนนะ หยุดเถอะ ! พวกอันธพาลหัวรุนแรง !”
“ต้องกล่าวขอโทษด้วยจริงๆ ขอชาวจีนจงคุ้มครองพวกเขา หากพวกเขาปลอดภัย ก็แสดงว่าเรายังมีคุณธรรมกันอยู่”
มีทั้งผู้ที่ขุดคุ้ยเรื่องของเขามาเล่าเพิ่มเติมแล้วส่งต่อให้เพื่อนๆแสดงความคิดเห็น
“ยังจำนาย คาวาฮาระ เคอิชิโร่ ได้มั๊ย คนที่ทำจักรยานหายที่อู่ฮั่นน่ะ ตอนนี้หมอนี่เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวที่อี้เหลียงในมณฑลยูนนานน่ะ เขากับเพื่อนญี่ปุ่นอาสานำยาจากในเมืองมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในค่ายพักพิงชั่วคราว เมื่อเช้า หมอได้โพสต์ข้อความว่าถูกทำร้ายว่ะ” คิดเห็นกันอย่างไร
มีทั้งผู้ที่ไม่เห็นด้วยเช่น
“เพ้อเจ้อ ! ชาวจีนกล่าวขอโทษพวกยุ่น สงสัยพอถึงวันสิ้นโลก คนพวกนี้คงเตะผู้อื่นทิ้งแล้วเอาตัวรอดเพียงลำพัง คุณค่าชีวิตถูกบิดเบือน ! คุณขายความรักชาติของพวกคุณให้คนญี่ปุ่นแล้วหรือ พวกญี่ปุ่นยังไม่ยอมรับเลยว่าเคยรุกรานประเทศเรา พวกคุณจะขอโทษกันไปทำไมไม่ทราบ ?”
“เรารู้สึกว่าคนญี่ปุ่นเป็นพวกตีสองหน้าว่ะ ดูจากนายอาสาสมัครนี่แหละ จากโพสต์ที่เห็น เรารู้สึกว่าหมอนี่ไม่ได้ทำความดีจริงหรอก เสแสร้งแกล้งทำต่างหาก”
มีทั้งความเห็นที่เป็นกลางกึ่งประชดประชัน เช่น
“การยกระดับคุณภาพของมนุษย์ต้องใช้เวลา พวกที่ชอบทำร้ายผู้อื่น ผมก็อยากรู้นักว่า เวลาคุณลำบากคุณต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นหรือเปล่า การช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่ใช่ผลิตผลของการเมือง ผมไม่อุดหนุนสินค้าญี่ปุ่น แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายหรือทำลายผลประโยชน์ของพวกเขา แน่นอน ผมเป็นคนจีน ผมรักประเทศจีนแต่ผมจะไม่ทำตัวเป็นโจร ผมจะรักชาติอย่างสง่างาม ไม่ใช่รักชาติอย่างบ้าคลั่ง”
ทั้งนี้กรณีพิพาทแย่งชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ (เซนกากุในภาษาญี่ปุ่น) ทำให้ประเทศจีนและญี่ปุ่นสองประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ในเอเชียเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพลเมืองในทั้งสองประเทศอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง