เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์--ทูตญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) ประกาศเตือนความปลอดภัยของพลเมืองญี่ปุ่นที่อาศัยในจีน หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเหนือเกาะในทะเลจีนตะวันออก
สถานกงสุลญี่ปุ่นในเมืองเซี่ยงไฮ้กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ และหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้เดลี่ กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 ก.ย.) กลุ่มนักกีฬาญี่ปุ่นที่มาร่วมการแข่งขันบิลเลียดพูลนานาชาติในเซี่ยงไฮ้ ถูกจู่โจมขณะกำลังทานอาหารเย็น โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส
อีกกรณีหนึ่ง มีชาวจีนสาดก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ใส่หน้าชาวญี่ปุ่น และมีบางคนถูกตีด้วยขวดแก้ว หรือเทน้ำใส่พวกเขา รวมทั้ง ชายจีนคนหนึ่งพยายามทำร้ายคนขับรถแท็กซี่ เนื่องจากรับผู้โดยสารที่เป็นชาวญี่ปุ่น
จากเหตุดังกล่าว ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องประกาศเตือนเมื่อวานนี้ รวมทั้งมีชาวญี่ปุ่นกลับประเทศแล้วมากกว่า 60,000 คน “รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องหลายครั้งให้รัฐบาลจีนรับรองในความปลอดภัยของประชาชนและบริษัทญี่ปุ่น และถามจีนว่าได้ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเต็มรูปแบบแล้วหรือยัง” สถานกงสุลกล่าวในแถลงการณ์
ประกาศเตือนชาวญี่ปุ่นให้ระวังภัยในช่วงเวลากลางคืน หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่สาธารณะ และงดเว้นการพูดภาษาญี่ปุ่นในสถานที่สาธารณะเช่นกัน
นอกจากนี้ ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) เว็บไซต์ศาลสูงสุดของญี่ปุ่น โดนแฮกเกอร์ใส่ข้อความเป็นภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษในหน้าหลัก แปลว่า “เกาะเตี้ยวอี๋ว์เป็นของจีน ออกไปจากเกาะฯ ซะ” พร้อมรูปธงชาติจีนปักอยู่บนเกาะเตี้ยวอี๋ว์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวน
ทั้งนี้ เกาะเตี้ยวอี๋ว์ในภาษาจีน หรือเซนกากุในภาษาญี่ปุ่นนั้น ตั้งอยู่ในทะเลจีนตะวันออก บริเวณน่านน้ำเกาะฯ เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญทางยุทธศาสตร์ และยังเป็นแหล่งทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมหาศาล
ฝ่ายจีนอ้างอธิปไตยเหนือเกาะฯ มาตั้งแต่ราชวงศ์หมิง (พ.ศ. 1911) อย่างไรก็ตาม เกาะฯ ดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในเวทีสากลว่า เป็นของญี่ปุ่นที่ได้ผนวกรวมเข้าไปในปีพ.ศ. 2438 ทำให้จีนและญี่ปุ่นพิพาทกรรมสิทธิเหนือเกาะฯ นี้มาจนถึงปัจจุบัน