เอเจนซี—จีนและไต้หวันเดินหน้าส่งเสริมการค้าระหว่างกันครั้งล่าสุด ในวานนี้(31 ส.ค.) สองฝ่ายได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู (MOU) เปิดทางให้ธนาคารในไต้หวันสามารถเปิดบัญชีเงินฝาก และปล่อยสินเชื่อในสกุลเงินหยวนได้
ธนาคารกลางไต้หวันแถลง บันทึกความเข้าใจฉลบับนี้ได้ระบุเค้าโครง การชำระราคาด้วยสกุลเงินหยวนโดยตรง (direct yuan clearing) ซึ่งคาดกันว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วัน
ประธานหอการค้าแห่งไต้หวัน จัง ผิงเจ่า ประเมินว่า เอ็มโอยูฉบับนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการทำธุรกิจได้ 50,000 ล้าน ดอลลาร์ไต้หวันต่อปี
ทั้งนี้แม้จีนนับเป็นคู่หุ้นส่วนทางการค้า และเป้าหมายการลงทุนรายใหญ่สุดของไต้หวัน แต่กลุ่มธนาคารในไต้หวันสามารถซื้อขายเงินสดสกุลเงินหยวนผ่านธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) สาขาฮ่องกง เท่านั้น
สำนักข่าวซินหวารายงานโดยอ้างแหล่งข่าวโฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน นาย หยาง อี้ ว่าข้อตกลงใหม่นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงความไม่แน่นอนของอัตราแลกเปลี่ยนในการทำธุรกิจระหว่างสองฝ่าย
นอกจากนี้ ข้อตกลงใหม่ยังไฟเขียวให้กลุ่มบริษัทไต้หวันออกพันธบัตรสกุลเงินหยวน และขายผลิตภัณฑ์การลงทุนในรูปสกุลเงินหยวนบนเกาะได้ด้วย
ผู้ว่าธนาคารกลางแห่งไต้หวัน เผิง ไหวหนัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สองฝ่ายยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงสุดท้ายเกี่ยวกับรายละเอียดของกลไกลดังกล่าว และก็ยังไม่ได้เลือกธนาคารที่จะดำเนินการชำระราคา
นับวันจีนและไต้หวันยิ่งขยายความร่วมมือเศรษฐกิจการค้ากัน โดย 2-3 ปีมานี้ ได้ลงนามเอ็มโอยูด้านการเงินเพื่อกระชับความร่วมมือในภาคธนาคาร ประกันภัย และการลงทุนต่อกัน
ทั้งนี้ จีนและไต้หวันมีการปกครองที่แยกจากกันตั้งแต่สงครามกลางเมืองในปี 2492 โดยที่ฝ่ายจีนคณะชาติ หรือก๊กมินตั๋งนำโดยเจียง ไคเช็ก เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงนำกองกำลังถอยมายังไต้หวัน จัดตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐจีนของตน ขณะที่ผู้นำคอมมิวนิสต์ได้ประกาศสาธารณรัฐประชาชนจีน และนับไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีนตราบถึงปัจจุบัน
ทั้งสองฝ่ายเป็นปฏิปักษ์การเมืองกันมากว่า 60 ปี และเพิ่งกระชับสัมพันธ์กันครั้งประวัติการณ์เมื่อหม่า อิ่งจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋งขึ้นเป็นประธานาธบดีไต้หวัน เมื่อปี 2551.
ผู้ว่าธนาคารแห่งไต้หวัน เผิง ไหวหนัน ลงนามบันทึกความเข้าใจข้อตกลงการชำระราคาด้วยสกุลเงินระหว่างช่องแคบไต้หวันเมื่อวันศุกร์(31 ส.ค.)
