xs
xsm
sm
md
lg

รวยอื้อซ่า! เศรษฐีจีนแผ่นดินใหญ่ทะลุหลักล้านคน

เผยแพร่:   โดย: ดวงพร วงศ์ชูเครือ

(ภาพ : หังโจวหวั่ง)
เอเยนซี - ผลสำรวจพบเศรษฐีจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีสินทรัพย์เกิน 10 ล้านหยวน(ราว 50 ล้านบาท) มีจำนวนทะลุล้านคนเป็นครั้งแรก ปักกิ่ง-กวางตุ้ง-เซี่ยงไฮ้ แชมป์ 3 อันดับแรก แต่เกือบครึ่งอยากหนีไปอยู่เมืองนอก โดยร้อยละ 16 อพยพไปแล้วหรือกำลังยื่นขออนุญาต ระบุอเมริกา และแคนาดาคือจุดหมายปลายทางยอดฮิต อ้าง 3 เหตุสำคัญ ส่งลูกเรียนต่อ เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี และใช้ชีวิตหลังเกษียณ

วันที่ 31 ก.ค. 2555 สถาบันสำรวจจัดอันดับความมั่งคั่ง หูรุ่น (Hurun Report) ร่วมกับ GroupM Knowledge ซึ่งเป็นบริษัทบริหารและจัดการธุรกิจสื่อสารการตลาดครบวงจรชั้นนำของโลก ได้เผยแพร่รายงานการจัดลำดับเศรษฐีจีนปี พ.ศ.2555 โดยในรายละเอียดแบ่งเป็นผลสำรวจจำนวนเศรษฐีในจีนแผ่นดินใหญ่ ณ ปัจจุบัน สถานการณ์ในรายพื้นที่ และอุปนิสัยในการจับจ่ายใช้สอย โดยผลสำรวจบ่งชี้ว่าเศรษฐีในจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหยวน(ราว 50 ล้านบาท) มีจำนวนทะลุ 1 ล้านคนเป็นครั้งแรก หรืออาจกล่าวได้ว่าในประชากรจีนทุกๆ 1,300 คน จะมีเศรษฐีระดับ 10 ล้านหยวนอยู่ 1 คน

ผลสำรวจดังกล่าว พิจารณาจากจำนวนที่พักอาศัยที่มีระดับในแต่ละพื้นที่ ปริมาณการซื้อรถยนต์ราคาแพงในช่วง 3 ปี จำนวนผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ทุนจดทะเบียนของผู้ประกอบการธุรกิจ โดยนำมาวิเคราะห์ร่วมกับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนประกาศออกมา

เศรษฐีจีนระดับ 10 ล้าน มี 1.02 ล้านคน ปักกิ่ง-กวางตุ้ง-เซี่ยงไฮ้ เยอะสุด

อ้างอิงจากผลสำรวจดังกล่าวพบว่า ปลายปี พ.ศ.2554 เศรษฐีในจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีสินทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหยวนมีจำนวนเกิน 1.02 ล้านคนเป็นครั้งแรก โดยมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 6 หมื่นคน คิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 6.3 โดยในจำนวนนั้นเป็นเศรษฐีที่มีสินทรัพย์เกิน 100 ล้านหยวน(ราว 500 ล้านบาท) จำนวน 63,500 คนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 3,500 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 5.8

ทั้งนี้เกณฑ์การประเมินของหูรุ่นจะพิจารณาจากผู้ที่มีสินทรัพย์ส่วนบุคคลมากกว่า 10 ล้านหยวน โดยสินทรัพย์หมายถึง สินทรัพย์ที่นำไปลงทุน หุ้นในบริษัทที่ไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้พักอาศัยเอง และงานศิลปะที่สะสมส่วนตัว

ผลสำรวจยังบ่งชี้ด้วยว่า มหานครปักกิ่งมีเศรษฐีที่มีสินทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหยวนมากเป็นอันดับที่หนึ่ง โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 179,000 คน เพิ่มขึ้นราว 9 พันคนจากปีก่อนหน้า ขณะที่จำนวนเศรษฐี 100 ล้านมี 10,500 คน รองลงมาคือกว่างตง(กวางตุ้ง) มีจำนวนเศรษฐีที่ร่ำรวยระดับ 10 ล้านหยวนอยู่ 167,000 คน ขณะที่จำนวนเศรษฐี 100 ล้านหยวนมี 9,500 คน ส่วนเมืองลำดับที่สามที่มีเศรษฐี 10 ล้านหยวนมากที่สุดในจีน คือซั่งไห่ (เซี่ยงไฮ้) จำนวน 140,000 คน เศรษฐี 100 ล้านหยวน 8,200 พันคน นอกจากนี้ยังมีเศรษฐีที่มีสินทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหยวนราวร้อยละ 16 กระจายอยู่ในแถบพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ตงเป่ย) ภาคตะวันตกเฉียงใต้(ซีหนาน) ภาคกลาง(หวาจง) และภาคตะวันตกเฉียงเหนือ(ซีเป่ย) ของจีน

28% ยังมั่นใจเศรษฐกิจจีน แห่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่และทองคำ

ผลสำรวจชี้ว่า ร้อยละ 28 ของผู้มั่งคั่งในจีนมีความมั่นใจในเศรษฐกิจจีนช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นตัวเลือกแรก ทว่ามีอัตราส่วนที่ลดลงจากร้อยละ 72 ในปีก่อนเหลือร้อยละ 60 ลำดับถัดมาคือการลงทุนในหุ้น ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่และทองคำมีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยพบว่าสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19 ในปีก่อนหน้าเป็นร้อยละ 41 ขณะที่การลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 26

คืนกำไรให้สังคม 24% บริจาคการกุศล 12%รักษาสิทธิแรงงาน

รายงานดังกล่าวมีการสำรวจความคิดเห็นของเศรษฐีถึงวิธีการคืนประโยชน์ให้สังคม พบว่าเหล่าเศรษฐียังคงเห็นว่าการจ่ายภาษีเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมที่ดีที่สุด รองลงมา ร้อยละ 24 เลือกการบริจาคเงินให้องค์กรการกุศล ส่วนลำดับที่ 3 หรือร้อยละ 12 เลือกการรักษาสิทธิแรงงาน นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นอื่นๆ อาทิ เพิ่มอัตราผู้มีงานทำ การรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

เศรษฐีจีนจับจ่ายเฉลี่ย 1.76 ล้านหยวนต่อปี

จากรายงานของหูรุ่น ยังแบ่ง 4 ประเภทใหญ่ของชาวจีนผู้มีสินทรัพย์เกิน 10 ล้านหยวนเอาไว้ โดยร้อยละ 50 เป็นเจ้าของกิจการ ร้อยละ 20 มีอาชีพเป็นนักลงทุน ร้อยละ 15 เป็นนักเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ และอีกร้อยละ 15 คือนักวิชาชีพหรือผู้ที่มีทักษะซึ่งเป็นที่ต้องการ โดยรวมมีอายุเฉลี่ย 39 ปี สัดส่วนชายต่อหญิงอยู่ที่ 6:4

ส่วนกิจกรรมยามว่างของเหล่าเศรษฐีนั้นนิยมการท่องเที่ยว อ่านหนังสือ ดื่มชา ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ ว่ายน้ำ และโยคะ ร้อยละ 46 สูบบุหรี่ ร้อยละ 70 ดื่มแอลกอฮอล์ โดยชอบดื่มไวน์แดงและแชมเปญมากที่สุด ส่วนของสะสมยอดนิยมคือนาฬิกาและภาพเขียนอักษรจีนโบราณ

นอกจากนี้ จากการสัมภาษณ์เศรษฐีจีนที่มีรายได้เฉลี่ย 63 ล้านหยวน (ราว 315 ล้านบาท) จำนวน 503 คน พบว่ามีการใช้จ่ายต่อปีเฉลี่ย 1.76 ล้านหยวน (ราว 8.8 ล้านบาท) ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 9 โดยหมดไปกับการท่องเที่ยวมากที่สุด รองลงมาคือค่าเล่าเรียนบุตร และของใช้ฟุ่มเฟือยในชีวิตประจำวัน ตามลำดับ ที่น่าสนใจคือ ผลสำรวจระบุว่าเศรษฐีเพศหญิงจะใช้จ่ายเพื่อค่าเล่าเรียนบุตรและการท่องเที่ยวมากที่สุด ขณะที่เศรษฐีชายใช้จ่ายเงินไปกับความบันเทิงและของสะสมมากที่สุด

85% คิดส่งลูกเรียนต่อนอก 1 ใน 3 มีสินทรัพย์ ตปท.

เศรษฐีจีนที่มีสินทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหยวนราวร้อยละ 85 มีความคิดที่จะส่งบุตรไปศึกษายังต่างประเทศ ขณะที่เศรษฐีระดับ 100 ล้านหยวนกว่าร้อยละ 90 คิดเช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่เห็นว่าระดับมัธยมปลายเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะส่งบุตรไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยสามประเทศยอดฮิตของเศรษฐีจีนในการส่งบุตรไปเรียนต่อคือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และแคนาดา ตามลำดับ

รายงานระบุว่า ร้อยละ 16 ของเศรษฐีชาวจีนแผ่นดินใหญ่ได้อพยพไปอยู่ต่างประเทศแล้วหรือกำลังยื่นขออนุญาตเพื่ออพยพไปอยู่ต่างประเทศ ขณะที่ร้อยละ 44 ของเศรษฐีจีนกำลังพิจารณาว่าจะอพยพไปอยู่ต่างประเทศหรือไม่ โดยประเทศที่นิยมอพยพไปอยู่มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยส่วนใหญ่อ้างเหตุผลเรื่องการศึกษาของบุตร การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี และการใช้ชีวิตบั้นปลายหลังเกษียณอายุ นอกจากนี้ราว 1 ใน 3 ของเศรษฐีเหล่านี้มีการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเฉลี่ยแล้วเงินลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 19 ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยการลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ผลการสำรวจยังพบด้วยว่า เศรษฐีที่ปัจจุบันยังไม่ได้ลงทุนในต่างประเทศเกือบร้อยละ 30 ก็วางแผนว่าภายใน 3 ปีข้างหน้าจะลงทุนในต่างประเทศเช่นเดียวกัน

ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐีเหล่านี้นำเงินไปลงทุนในต่างประเทศก็เพื่อประโยชน์ในการศึกษาของบุตร โดยกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐีลงทุนต่างประเทศก็เพราะต้องการส่งบุตรไปศึกษายังต่างประเทศ ขณะที่อีกราว 1 ใน 3 ลงทุนในต่างประเทศก็เพื่อประโยชน์ในการอพยพไปอยู่ต่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น