จีน "ถูกหลอก" โด๊ปยานักกีฬาโอลิมปิก

เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ - หลังจากปิดปากเงียบอยู่นานถึง 30 ปี ในที่สุดอดีตหัวหน้าแพทย์ประจำทัพนักกีฬาโอลิมปิกแดนมังกรก็ออกมายอมรับว่า ได้ทดลองใช้ยากระตุ้นต้องห้ามกับนักกีฬาจีน ซึ่งเป็นการเดินตามก้นมะกันกับหมีขาว แล้วในที่สุดก็พบว่า ถูกหลอกทั้งเพ เพราะได้ผลจำกัด

ด็อกเตอร์ เฉิน จังเหา เคยเป็นหัวหน้าแพทย์ของนักกีฬาจีนชุดโอลิมปิกที่นครลอสแองเจลิส (2527) ที่กรุงโซล (2531) และที่นครบาร์เซโลน่า (2535) โดยถึงแม้ปลดเกษียณมานานแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังคงเป็นผู้อาวุโสในหมู่ผู้มีชื่อเสียงในวงการกีฬาของจีนอยู่

ด็อกเตอร์เฉินให้สัมภาษณ์ The Saturday Age อย่างหมดเปลือก หลังจากถูกอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาคือเสวีย อินเสียน ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้ดูแลด้านการแพทย์ของทีมนักกีฬายิมนาสติกในช่วงปี 2523-2533 กล่าวหาว่า เขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ที่จีนมีการละเมิดอย่างเป็นระบบและจนเกร่อในการนำยาโด๊ป ซึ่งถูกประกาศห้าม มาใช้กับนักกีฬา เพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการแข่งขันมาตั้งแต่ปลายช่วงปี 2513-2523 จนถึงต้นช่วงต้นปี 2533-2543 โดยที่ด็อกเตอร์เฉินได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปในวงการกีฬาของจีนอีกด้วย

ด็อกเตอร์เฉินเล่าว่า นักกีฬาชื่อเสียงโด่งดังที่สุด 2 คนของจีน คือหลิว เสียง นักกรีฑาวิ่งข้ามรั้ว และนักบาสเกตบอลเหยา หมิง ก็เคยมาขอให้เขาช่วยเรื่องการใช้ยากระตุ้น

“เราลองใช้ (ฮอร์โมน) ก่อนเป็นอย่างแรก แต่ไม่ได้ผล เราจึงเลิก” ด็อกเตอร์เฉินให้สัมภาษณ์

“ เราเพิ่มฮีโมโกลบิน เมื่อพบว่ามีระดับต่ำ (ในนักกีฬาซึ่งถูกทดลอง) และเพิ่มสารแอนโดรเจนไปด้วย” คุณหมอหมายถึง “การโด๊ปเลือด” และสเตียรอยด์

อย่างไรก็ตาม ด็อกเตอร์เฉินมีหลักในการใช้สเตียรอยด์ การโด๊ปเลือด และฮอร์โมน ซึ่งล้วนเป็นสารต้องห้ามได้แก่

“ ประการแรกต้องเป็นการสมัครใจ ประการที่สองไม่มีอันตราย และประการที่สามคือใช้ได้ผลดี"

ด็อกเตอร์เฉินถูกเสวีย อินเสียนกล่าวหาว่า “ยาโด๊ปด้านกีฬาและฮอร์โมนกระตุ้นการเติบโต (growth hormones) ทั้งหมดล้วนมีต้นตอมาจากเฉินทั้งนั้น ”

และในสุนทรพจน์ของด็อกเตอรเฉินเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2533 เขายังอ้างว่า นักกีฬาทีมว่ายน้ำหญิงประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติอย่างฉับพลันก็เพราะgrowth hormones นี่เอง

การออกมาเปิดเผยของคนทั้งคู่ทำให้จีนหน้าแตก หลังจากยืนยันมาโดยตลอดว่า ทางการจีนไม่มีนโยบายสนับสนุนให้มีการใช้ยากระตุ้นในวงการกีฬา

ด็อกเตอร์เฉินระบุว่า เขารู้สึกภาคภูมิใจวงการกีฬาของจีน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ และภูมิใจ ที่มีส่วนในการสร้างชื่อเสียงให้แก่วงการกีฬา ซึ่งช่วยพรรคคอมมิวนิสต์จีนลบความอัปยศ ที่มีมานานนับร้อยปีว่า “เราเป็นคนป่วยของเอเชีย”

“สหรัฐฯ สหภาพโซเวียต และฝรั่งเศส เขาก็ใช้ยากระตุ้นกันทั้งนั้น เราจึงใช้บ้าง” เขาอ้างเหตุผล

“แล้วคุณมาประณามจีนได้ยังไง ทำไม่ไม่ประณามอเมริกา”

สำหรับประสิทธิภาพของยากระตุ้นเหล่านั้น ด็อกเตอร์เฉินได้ทดลองยาประเภทต่าง ๆ กับนักกีฬาระดับแถวหน้าราว 50 คน และสรุปว่า ได้ผลแค่ห้าสิบ-ห้าสิบเท่านั้น โดยพบว่าร้อยละ 50 ของนักกีฬา ที่ถูกทดลอง ใช้แล้วได้ผล แต่อีกร้อยละ 50 ไม่

นอกจากนั้น เขายังเลิกใช้ growth hormones เนื่องจากราคา ที่แพงมากถึง 20,000 หยวนต่อคน ซึ่งคอร์สหนึ่งต้องใช้เวลา 1-2 เดือน

มาวันนี้ อดีตหัวหน้าแพทย์ทัพนักกีฬาโอลิมปิกจีนได้ตำหนิผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ สหภาพโซเวียต และยุโรป ที่ชักนำจีนเดินไปบนเส้นทางของการใช้ยากระตุ้นสำหรับนักกีฬา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วหาประโยชน์ไม่ได้เลย

“เรา (ชาวจีน) หลับหูหลับตาเชื่อพวกเขา เหมือนคนโง่ เพราะพวกเขาดูเหมือนเป็นคนดีไปเสียหมด” เขากล่าว

“แต่จริง ๆ แล้ว เขาหลอกเรา”