xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เฒ่าวัย 73 ชีวิตจนตรอก ออกปล้นเพื่อขออยู่คุก อ้วนขึ้น 5 กก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากภาพ นายฟู่ ต๋าซิ่น วัย 73 ปี ชีวิตโลกภายนอกคุกต้องอดมื้อกินมื้อ แทบไม่มีโอกาสได้กินเนื้อเลย เขาจึงหวังว่าจะได้ติดคุกอีกซักครั้ง (ภาพซินหวา)
ไชน่าเดลี่--ชายชราวัย 73 ปี ลงมือชิงทรัพย์ จงใจให้ตำรวจจับเข้าคุก เหตุทางบ้านยากจน แทบไม่มีอะไรจะกิน ทำงานก็ไม่ไหว แต่พออยู่ในคุกเพียง 3 เดือน น้ำหนักขึ้นมาเกือบ 5 กก.

ชายชรานาม ฟู่ ต๋าซิ่น ชาวนาในหมู่บ้านหลิงกวน ตำบลฉีตง เมืองเหิงหยาง มณฑลหูหนัน สมัยวัยเด็ก ในบรรดาคนรุ่นราวคราวเดียวกันนับถือเขาเป็น“ผู้ที่รอบรู้ที่สุด” หลังจบการศึกษาชั้นประถมเมื่อปี 1957 สอบเข้าโรงเรียนมัธยมหลินเย่ในตำบลได้ ขณะนั้นไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนใดๆ ช่วงเช้าเรียนหนังสือ ช่วงบ่ายทำงานให้กับโรงเรียน แต่เรียนได้แค่ 1 ปี โรงเรียนก็ปิดตัวลง จึงต้องกลับมาทำนาที่หมู่บ้าน

ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนมาก ตลอดชีวิตของเขาจึงไม่ได้แต่งงาน และเริ่มมาขายแรงงานในมณฑลก่วงซี (กวางสี) และมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง)

พออายุเริ่มมากขึ้น นายฟู่ไม่สามารถทำงานในเมืองได้อีก จึงต้องกลับบ้านนอก แถมบ้านอิฐที่สร้างเมื่อ 30 ปีก่อน ก็พังถล่มลงมาครึ่งหลัง ชาวบ้านแถวนั้นมักเห็นเขาอยู่ในผืนนา มีเพียงข้าวสวยแช่น้ำเย็นเป็นอาหารประทังชีวิต ขณะนั้นสุขภาพนายฟู่ยังแข็งแรงดีอยู่ จึงสามารถทำงานเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ต่อมาเริ่มมีอาการเจ็บป่วย เงินที่หามาได้ลดน้อยลง อีกทั้งอายุก็มากขึ้น เรียกได้ว่า เป็นเวลา 2 ปี ที่เขาไม่ได้กินแม้แต่เนื้อ

กระทั่งเมื่อ 4 ปีก่อน (2008) นายฟู่ ต๋าซิ่นต้องการผู้ดูแลยามแก่เฒ่า และมีอาหารกินอิ่มท้อง จึงตัดสินใจลงมือชิงทรัพย์เพื่อจะได้ติดคุก “ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ” นายฟู่กล่าว

ช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.ย.ปีเดียวกัน ณ จัตุรัสหน้าสถานีรถไฟกรุงปักกิ่ง เขาหยิบมีดปอกผลไม้ แล้วมองหาเหยื่อ

ตอนแรกเป้าหมายของเขาคือ ตำรวจ เขาคิดว่า “หากปล้นตำรวจ เขาต้องจับผมเข้าคุกทันที” แต่ไม่ทันที่จะเดินเข้าไป ตำรวจก็เดินจากไป

เขาต้องเปลี่ยนเป้าหมาย เป็นหญิงวัยกลางคนที่กำลังต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟอยู่ ในมือถือเงิน 300 หยวน เขาพยายามดึงเงินออกมา พอหญิงคนนั้นรู้ตัว นายฟู่จึงควักมีดแล้วขู่ให้เธอร้องดังๆ แต่หญิงคนดังกล่าวคิดว่านายฟู่เป็นคนโรคจิต จึงกลับไปเข้าแถวต่อ “ตอนนั้นผมโกรธมาก ทำไมเธอถึงไม่ร้องออกมา ถ้าเธอร้อง ตำรวจมา ก็เรียบร้อยไปแล้ว” นายฟู่กล่าว

นายฟู่ต้องหาเป้าหมายใหม่ ขณะนั้น ทางฝั่งซ้ายของจัตุรัสฯ มีนักศึกษาสาวกำลังสะพายกระเป๋าเป้ นายฟู่เข้ามาทางด้านข้างแล้วดึงกระเป๋าของเธอหวังชิงทรัพย์ แต่กระเป๋ากลับยังค้างอยู่ที่แขนของเธอ เขาจึงควักมีดออกมา ขู่ให้เธอร้องว่ามีขโมย ครั้งนี้ นักศึกษาสาวตัดสินใจตะโกนเรียกตำรวจจริง

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ปีเดียวกัน ศาลการขนส่งทางรถไฟแห่งกรุงปักกิ่ง มีคำตัดสิน เนื่องจากนายฟู่ ต๋าซิ่น จงใจกระทำการชิงทรัพย์ แต่ไม่สำเร็จ ถือว่ามีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย ตัดสินให้จำคุก 2 ปี เสียค่าปรับ 6,000 หยวน ทว่า นายฟู่ไม่มีเงินเสียค่าปรับ

นายฟู่หวังแต่เพียงว่าศาลฯ จะตัดสินโทษหนักให้เขา ขณะรับคำตัดสินจึงอ้อนวอนต่อศาลให้ตัดสินคดีใหม่ เพื่อที่จะได้ถูกขังหลายๆ ปี พอไปอยู่ในคุกแล้ว ก็ไม่ต้องตระเวนไปไหนมาไหนเพื่อหาข้าวกินให้อิ่มอีก

ขณะอยู่ในคุก ชายชรากินทุกอย่างที่ขวางหน้า ผ่านไป 3 เดือน น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากว่า 5 กก. ชายชราวัย 73 คิดว่าชีวิตที่อยู่ในคุกเป็น “ชีวิตที่ดีมาก” ของเขาแล้ว ภายในคุกมีทั้งมีทั้งหมั่นโถวและโจ๊ก ไม่ต้องทำงาน พอป่วยก็มีคนดูแล และในหนึ่งวันยังสามารถให้เขาสูบบุหรี่ได้

เวลาผ่านไปหนึ่งปีครึ่ง นายฟู่ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนด แล้วส่งตัวไปที่บ้านพักคนชราจิ้ง เขตหลิงกวน ตำบลฉีตง เมืองเหิงหยาง มณฑลหูหนัน

ณ บ้านพักคนชรา ถือว่า นายฟู่ เป็นผู้ที่ “ผ่านโลกมามาก” เขาเคยไปปักกิ่ง เคยทานซุปไข่ใส่เหล้ารัม (เถียนจิ่วชงจีตั้น) ในวันส่งท้ายปีเก่าด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้คนชราคนอื่นๆ ไม่กล้าแม้แต่จะคิด ถึงแม้ในบ้านพักคนชราฯ จะมีผู้ดูแล และเพื่อนๆ รุ่นเดียวกับนายฟู่ก็ตาม แต่เขายังหวนนึกถึงชีวิตในคุก “ชีวิตที่นี่เทียบไม่ได้กับตอนอยู่ในคุก ผมไม่อยากให้มีการลดโทษเลย”

หลายคนถามนายฟู่ว่าทำไมถึงต้องพยายามชิงทรัพย์ถึงสองครั้ง เขากล่าว “โรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว” หากไม่ทำเช่นนี้ ชีวิตของตนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ
จากภาพ ในห้องของผู้เฒ่าฟู่ มีแค่เฟอร์นิเจอร์เก่าๆ และข้างกำแพงนั้น คือโลงศพที่เขาเตรียมไว้เพื่อตัวเอง (ภาพซินหวา)
กำลังโหลดความคิดเห็น