เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รัฐบาลท้องถิ่นของกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน มีแผนประกาศขายอาคารกว่า 100 แห่งในเมืองตลอด 3 ปีนับจากนี้ หวังนำเงินรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้มาช่วยตัดลดการขาดดุลด้านงบประมาณของเมือง รวมถึงนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการให้บริการสาธารณะต่างๆ แก่ประชาชน หลังจากที่ภาวะด้านการเงินการคลังของเมืองเริ่มเข้าขั้นเลวร้ายถึงขีดสุดจากผลพวงของวิกฤตหนี้สินยูโรโซน โดยตึกที่เตรียมถูกขายในครั้งนี้ มีทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน อาคารในมหาวิทยาลัย ไม่เว้นแม้แต่บ้านพักคนชรา
โฆเซ หลุยส์ โมเรโน กาซัส หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรุงมาดริด ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลการขายอาคารต่างๆ ออกมายอมรับว่า ถึงแม้รัฐบาลท้องถิ่นกรุงมาดริดจะไม่ใช่บริษัทนายหน้าค้าขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ด้วยสถานการณ์ด้านการเงินการคลังที่กรุงมาดริด และสังคมสเปนกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ ทำให้คณะผู้ปกครองท้องถิ่นไม่มีทางเลือกมากนัก และจำเป็นต้องขายตึกนับร้อยแห่งเพื่อหารายได้มาจุนเจือระบบประกันสุขภาพ การรักษาพยาบาล การศึกษา และสวัสดิการสังคมอื่นๆ
ท่าทีล่าสุดของรัฐบาลท้องถิ่นกรุงมาดริดมีขึ้นไม่นานหลังจากที่รัฐบาลกลางของสเปน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอย ออกมาประกาศว่าจะตัดลดการใช้จ่ายภาครัฐลงให้ได้ราว 1 ใน 3 ภายในปีนี้ เพื่อป้องกันมิให้สเปนต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นรอบที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ สเปนเพิ่งขอรับความช่วยเหลือมูลค่า 100,000 ล้านยูโร (ราว 3.85ล้านล้านบาท) เพื่อเยียวยาภาคสถาบันการเงินที่กำลังประสบปัญหาด้านสภาพคล่องอย่างหนัก
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า อาคารที่เตรียมถูกนำออกขายชุดแรกมีทั้งสิ้น 15 หลัง ซึ่งมีมูลค่ารวมกันกว่า 62 ล้านยูโร (ราว 2,390 ล้านบาท) โดยรัฐบาลท้องถิ่นของกรุงมาดริดจะใช้วิธีเปิดประมูล ซึ่งผู้ที่ให้ราคาสูงสุดของตึกแต่ละหลังจะเป็นผู้ชนะ และคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดประมูลต่อสาธารณชนได้ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยระยะเวลาที่จะเปิดให้ผู้ที่สนใจเสนอราคาเข้ามานั้นอาจนานถึง 4 เดือน