เอเจนซี--ศาลประชาชนชั้นกลางเมืองฟัวซันได้เผยแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (9 ก.ค.) เกี่ยวกับการพิจารณาคดีหนุ่มแซ่หวัง ใช้กิ่งไม้แทงเด็กสาววัย 14 ปี จากทวารหนักทะลุถึงลำไส้ได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย ขณะพยายามข่มขืน
ศาลได้ระบุความผิดจำเลยหลายกระทงด้วยกัน ได้แก่ เจตนาทำร้ายร่างกาย ข่มขืน (ไม่สำเร็จ) ประทุษร้ายอย่างรุนแรง ล่วงละเมิดทางเพศ จึงพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ริบสิทธิการเมืองตลอดชีวิต ปรับ 3,000 หยวน
นายหวังไม่ยอมรับคำตัดสิน และกำลังยื่นอุทธรณ์คำตัดสินต่อศาลประชาชนชั้นสูง
เหตุการณ์ฯ ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2553 เวลาประมาณ 19.00 น. อาหง (นามสมมติ) เด็กสาววัย 14 ปี เดินไปตามทางเปลี่ยวในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ในตำบลหลี่สุ่ย เขตหนานไห่ มณฑลก่วงตง (หรือกวางตุ้ง) มีชายคนหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาดึงตัวเด็กหญิงลงไปพื้นหญ้าข้างสระน้ำหมายจะข่มขืน แต่อาหงไม่ยอม คนร้ายจึงจับร่างอาหงคว่ำลงและใช้กิ่งไม้ยาว 40 ซม. แทงเข้าไปทางทวารหนักหลายครั้ง จากนั้นก็หลบหนีไป
ผู้พบเห็นเหตุการณ์เห็นอาหงนอนหายใจรวยริน อาการเป็นตายเท่ากัน จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
ทางแพทย์ที่รักษาอาหง กล่าวว่า กิ่งไม้ที่แทงเข้าไปในร่างกายมีความยาวประมาณ 40 ซม. โดยคนร้ายได้แทงจากทวารหนักถึงช่องท้องและลำไส้ตรง ทำให้ลำไส้ส่วนต้นและช่องคลอดได้รับบาดเจ็บรุนแรง แพทย์ได้ทำการการผ่าตัด เอาท่อนไม้ซึ่งหักตกค้างในร่างกาย 3 ท่อน ออกมา
ปี 2554 ตำรวจจึงสามารถสืบทราบและจับตัวคนร้ายได้ ผู้ต้องหาคือ นายหวังโหม่วจุน ปัจจุบันอายุ 36 ปี เป็นคนตำบลต๋า มณฑลเสฉวน การศึกษาระดับประถม และได้เข้ามาเป็นแรงงานต่างถิ่นในเขตหนานไห่ เมืองฟัวซัน ก่วงตง
นายหวังเล่า “ตอนเด็กๆ แม่ที่ให้กำเนิดตายตั้งแต่ตอนเด็ก ผมรู้สึกว่าแม่เลี้ยงก็ไม่ค่อยดีกับผมนัก ตอนไปโรงเรียนก็ถูกคนอื่นๆ ดูถูก ดังนั้น พอผมเห็นเด็กสาวอ่อนแอก็อยากที่จะควบคุมพวกเขา ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้แข็งแกร่ง ยิ่งเด็กสาวเหล่านั้นต่อต้านเท่าไหร่ ผมก็อยากที่จะเอาชนะพวกเขามากเท่านั้น”
สาเหตุที่นายหวังโหม่วจวินต้องโทษถึงขั้นประหารชีวิต นายวั่นเสวี่ยนไฉ รองผู้ว่าศาลฯ อธิบายว่า ตามกฎหมายลงโทษของจีน หากมีเจตนาทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย หรือทำร้ายอย่างเหี้ยมโหดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นพิการ ต้องจำคุก 10 ปีขึ้นไป หรือ จำคุกอย่างไม่มีกำหนด หรือต้องโทษประหาร นายหวังทำร้ายเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจนบาดเจ็บรุนแรง โดยเป็นกระทำผิดด้วยความโกรธ และถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคมมาก ซึ่งโทษประหารชีวิตนี้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย