เอเยนซี - ในวันที่ 7 มิ.ย. ที่ประเทศจีนได้เริ่มการสอบเอ็นทรานซ์ นับเป็นเรื่องใหญ่แห่งชีวิตของเยาวชนจีน ปีนี้ นักเรียนทั่วประเทศเข้าสอบเอ็นทรานซ์ 9,150,000 คน ตามสถานที่สอบ 310,000 แห่ง พ่อแม่ญาติมิตรหลายร้อยล้าน ต่างลุ้น ภาวนา ขอให้ลูกหลานและญาติเพื่อนมิตรที่กำลังเข้าสอบฯ โชคดี มีชัย
การทดสอบเริ่มในวันนี้และพรุ่งนี้ (7-8 มิ.ย.) กระทรวงศึกษาธิการจีนคาดการณ์ว่าจะมีผู้สอบผ่านสามารถศึกษาต่อได้มากถึงร้อยละ 75พร้อมระบุว่า จำนวนผู้เข้าสอบลดลงจากปีก่อนหน้า 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการสอบผ่านนั้นเพิ่มขึ้น 3 จุด
ในปีนี้มีเพียง 12 มณฑลของจีนที่พบว่าจำนวนนักเรียนที่เข้าสอบเพิ่มขึ้น ขณะที่วิทยาลัยทั่วประเทศมีแผนรับนักศึกษา 6.85 ล้านคน มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 100,000 คน อัตราการลดลงของผู้เข้าสอบและอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้สอบผ่านนั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2552 ขณะนั้นผู้เข้าสอบอยู่ที่ 10.5 ล้านคน และอัตราสอบผ่านอยู่ที่ 57 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่จำนวนผู้สมัครสอบลดลง ก็พบว่าผู้สมัครสอบที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปีก็ลดลงตามไปด้วย มีการคาดกันว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้สมัครลดลง เนื่องจากพวกเขามองเห็นโอกาสการศึกษาต่อในต่างประเทศ
ในปีนี้ เซี่ยงไฮ้มีผู้สมัครเข้ารับการทดสอบเพียง 55,000 คน ถือว่าลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เมื่อปีที่ผ่านมามีนักเรียนสมัครอยู่ที่ประมาณ 61,000 คน ทั้ง ๆ ที่เซี่ยงไฮ้มีนักเรียนม.ปลายที่จบการศึกษาปีหนึ่งสูงถึง 97,000 คน
ส่วนเมืองหลวงกรุงปักกิ่งก็เข้าข่ายลักษณะเดียวกัน ปักกิ่งมีผู้สมัครเข้าสอบจำนวน 76,000 คนในปีที่แล้ว ซึ่งนักเรียนที่สำเร็จการศึกษามีจำนวนมากถึง 126,000 คน ส่วนจำนวนผู้สมัครในปีนี้อยู่ที่ 73,460 คน
ณ เมืองอี๋ปิน มณฑลซื่อชวน ประเพณีฉีกตำราโปรยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีสุดท้าย ปีนี้สุดยอดไปเลย (วีดีโอจากโยวคู่)
เด็กชนบทฤๅจะสู้เด็กเมือง
ในขณะเดียวกัน นักเรียนในเขตชนบทก็ต้องเร่งฝึกวิชาทบทวนเนื้อหาความรู้กันอย่างหัวหกก้นขวิด เพื่อให้สามารถสอบได้คะแนนดี เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศให้ได้
ศาสตราจารย์พาน เว่ย แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งเผยว่า “เราไม่ค่อยเห็นนักศึกษาที่ปักกิ่งมาจากชนบทเท่าไรนัก”
เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาไม่เท่าเทียมนี้ กระทรวงศึกษาฯ ได้ออกนโยบายใหม่ในปีนี้ เพื่อเปิดประตูให้มหาวิทยาลัยชั้นนำสามารถรับนักเรียนที่ยากจนแต่มีความตั้งใจจริงจากชนบทเข้าเรียนได้
ในปีนี้ โครงการของกระทรวงได้ระบุเพิ่มโควต้านักเรียนในเขตอำเภอที่ยากจนทั่วจีน 680 อำเภอ จำนวน 12,100 คน ให้มีโอกาสเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ
กระทรวงฯ เผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนในเขตยากจนมีศักยภาพการแข่งขันเพิ่มขึ้นสูงกว่านักเรียนทั่วไปอีก 10 เปอร์เซ็นต์
“แม้ว่านักเรียนชนบทบางคนอย่างเช่นผมจะมีโอกาสเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับ 1 แต่เราก็ยังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จน้อยกว่าเด็กเมืองอยู่ดี” อาน หงย่ง นักศึกษาปี 4 ในกรุงปักกิ่งผู้มาจากครอบครัวยากจนมณฑลส่านซี เผย
“การศึกษาระดับประถมและมัธยมฯในเขตชนบทนั้น สอนพวกเราเพียงเล็กน้อย และไม่เคยสอนว่าทำอย่างไรจะสอบเกาเข่าได้คะแนนสูง เราเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเรายังใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนจบแล้วจะไปแย่งงานกับชาวบ้านเขาได้อย่างไร” อานย้ำ
“อยางไรก็ดี ถ้าพวกเรากลับบ้านตามนโยบายของรัฐบาล สิ่งที่เราเรียนจากมหาวิทยาลัยก็จะไร้ค่า ตัวอย่างเช่น ผมเรียนวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แต่ที่ชนบทที่ต้าถง ส่านซีนั้นมีโรงงานอิเล็กทรอนิกส์เพียงน้อยนิด และถ้าผมไปทำงานก็ต้องทำงานอื่น ซึ่งสิ่งที่เรียนมาล้วนเปล่าประโยชน์”
อย่างไรก็ดี อานวางแผนการหลังจบการศึกษาไว้ว่าจะอยู่ที่กรุงปักกิ่งหรือไม่ก็มหานครเทียนจิน แม้ว่าจะมีโอกาสในการทำงานที่ดี แต่อานคงจะเรียนต่อในระดับบัณฑิตศึกษาอีก 3 ปีต่อไป
“หากรัฐบาลต้องการลดช่องว่างทางการศึกษาอย่างแท้จริง จงไปพัฒนาโรงเรียนประถมและมัธยมในเขตชนบทให้ก้าวหน้าเถิด” อานทิ้งท้าย
(บรรยากาศการสอบเกาเข่าทั่วประเทศจีน)