xs
xsm
sm
md
lg

สุนัขนักสู้ผู้พิชิต ไต่หลังคาโลก 1,700 กม. ข้ามเขา 12 ลูก ถึงวังโปตะลา นครลาซา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสี่ยวซา อดีตสุนัขจรจัดตัวน้อยๆ กลายมาเป็นวีรบุรุษจอมพลังของชาวเน็ตจีน
ชาวเน็ตจีนกล่าวถึงการเดินทางของหมาน้อยเสี่ยวซาว่า นี่สิ ถึงเรียกว่าการปลดปล่อย อิสระเสรีอย่างแท้จริง ไม่มีความวิตกกังวล ไม่มีเป้สัมภาระ มีเพียงหนึ่งเดียวคือ หัวใจที่บอกว่าไปก็ไป...”
บางทีมันก็เหนื่อยมาก ฉีจี๋เลยให้ซ้อนท้ายจักรยาน
ฉีจี๋ และ เสี่ยวซา ถ่ายภาพด้วยกันหน้าพระราชวังโปตะลา เมื่อมาถึงนครลาซา ทิเบต เมื่อวันที่ 24 พ.ค. (ภาพ เอเจนซี)
เอเจนซี - เสี่ยวซา วิ่งมาถึงนครลาซาแห่งทิเบต ตอน 19.20 น. เมื่อวันพฤหัสฯ 24 พ.ค. และได้ถ่ายภาพร่วมกับเจ้าของนักปั่นจักรยาน นับเป็นวีรกรรมยิ่งใหญ่ของหมาน้อยตัวหนึ่ง มันได้วิ่งมาราธอนถึง 1,700 กิโลเมตร ข้ามเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 4,000 เมตร มา 12 ลูก!

เสี่ยว ซา เป็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง มันได้มาพบกับนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ผู้ใช้นามแฝง “ฉีจี๋” ที่หยาอัน มณฑลซื่อชวน (หรือ เสฉวน) โดยบังเอิญเมื่อวันที่ 4 พ.ค. นับจากนั้นมา สุนัขจรจัดตัวน้อย (ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีชื่อ) ก็ได้วิ่งตาม ฉีจี๋ ซึ่งปั่นจักรยานบนทางหลวง 318 ไปยังนครลาซา ทั้งสองใช้เวลา 20 วัน จึงเดินทางถึงเป้าหมายปลายทาง

หลังจากมาถึงลาซาแล้ว ฉีจี๋ ก็ได้เปิดเวยปั๋ว (สื่อสังคมออนไลน์จีนคล้ายทวิตเตอร์) โดยใช้ชื่อ “GOGOXiaosa” ในวันเดียว มีชาวเน็ตเข้ามาอ่านร่วม 30,000 คน เสี่ยวซาได้กลายเป็น “แบบอย่าง” ของชาวเน็ต ต่างขนานนามมันว่า “สุนัขผู้เปี่ยมศรัทธาแรงกล้า” “สุนัขเทพ”
ชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ฉันนับถือมันมาก นี่สิถึงเรียกว่าการปลดปล่อย อิสรเสรีอย่างแท้จริง ไม่มี...ไม่มีเป้สัมภาระ มีเพียงหนึ่งเดียวคือ หัวใจที่บอกว่าไปก็ไป...”

ชะตาชักพาให้พบเพื่อนร่วมทาง

“ฉีจี๋” อายุ 22 ปี เป็นคนเสียนหนิง มณฑลหูเป่ย ได้นั่งรถไฟมายังนครเฉิงตู มณฑลเสฉวนเมื่อเดือนที่แล้ว และเริ่มขี่จักรยาน ไปยังลาซาเมื่อวันที่ 29 เม.ย. นับเป็นครั้งแรกในการเดินทางสายเสฉวน-ทิเบต และราว 6 โมงเย็นของวันที่ 4 พ.ค. “ฉีจี๋” และเพื่อนร่วมทางก็มาถึงอำเภอหยาอัน ขณะกำลังเดินไปตามทาง ก็พบกับสุนัขสีขาวนอนเล่นอยู่ตรงริมทางเดินนั้น

เพื่อนร่วมทางที่มาด้วยกันลงจากจักรยาน ให้อาหารสุนัขจรจัดกิน เมื่อกินอิ่มหน่ำสำราญแล้ว สุนัขจรจัดตัวน้อยก็วิ่งติดตามกลุ่มนักปั่นจักรยานไปจนถึงโรงแรมที่พัก

“ตอนนั้นพวกเราคิดว่าจะดูแลมันอยู่คืนเดียว ในวันที่ 2 เมื่อเพื่อนร่วมทางพากันทยอยออกจากโรงแรม เจ้าสุนัขตัวน้อยไม่รู้โผล่มาจากทางไหน วิ่งตามเรามาทัน และมันก็วิ่งตามผมมาตลอดทาง บางทีอาจเป็นชะตาต้องกัน” ฉีจี๋เล่า

นับจากนั้นมา ฉีจี๋และหมาน้อยก็กลายเป็นเพื่อนร่วมทาง ด้วยเป้าหมายปลายทางคือ “นครลาซา” ฉีจี๋ก็เลยเรียกหมาน้อยว่า “เสี่ยวซา”

“เสี่ยวซา” และเหล่านักปั่นจักรยาน บุกบั่นไปตามทางหลวง 318 สายเสฉวน-ทิเบต พวกเขามุ่งหน้าสู่ตะวันตก ฝ่าข้ามภูเขาซิกแซกคดเคี้ยว ข้ามลำน้ำนู่เจียงที่เชี่ยวกราก ทั้งยังได้ผจญภัยหนีรอดจากฝูงหมาป่าที่วิ่งไล่ตาม

“โอ! มันยอดมากๆ วันหนึ่งวิ่งได้ตั้ง 50-60 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็นการเดินทางที่ไต่สู่ที่สูง ระหว่างทางต้องข้ามเขา 12 ลูก ที่มีความสูงกว่า 4,000 เมตร มันสู้ทุกอย่างที่ขวางหน้าจนถึงเป้าหมาย”

ในสายตาของฉีจี๋แล้ว เสี่ยวซาเป็นสุนัขที่ฉลาดมาก “มีบางครั้งมันวิ่งไปไกลมากจนไม่เห็นพวกเรา ก็ยังหวนกลับมาตามหาพวกเราจนพบ”

วิ่งไป 4-5 วัน ฉีจี๋ก็พบว่าพอถึงที่ลาดต่ำลงไป เสี่ยวซาต้องออกแรงมาก และตามกลุ่มไม่ทัน แต่เมื่อถึงช่วงที่สูงขึ้น มันจะวิ่งวิ่งราวกับจะบินเลยทีเดียว ดังนั้น ฉีจี๋เลยซื้อตระกร้าเหล็กติดไว้ตรงที่นั่งด้านหลัง เป็น “บ้านรถของเสี่ยวซา” เมื่อเสี่ยวซาวิ่งเหนื่อยแล้วก็ขึ้นมานอนได้

หลังจากมาถึงที่หมายแล้ว ฉีจี๋ก็เปิดเวยปั๋ว (ทวิตเตอร์จีน) โพสต์รูปใหม่ๆ ของเสี่ยวซาทุกวัน

ชาวเน็ตบางคนชื่นชมว่า “เสี่ยวซาเป็นวีรบุรุษจอมพลัง ที่ให้พลังแก่พวกเรามาก...”

ชาวเน็ตหลายคนทึ่งมาก เสี่ยวซาไม่มีอาการแพ้ที่สูงหรือ... ไม่หิวไม่เหนื่อย บางคนก็เตือนฉีจี๋ อย่างเช่น “ตอนข้ามเขาตงต้า (Qoidên) ต้องไต่ขึ้นที่สูงเป็นระยะทาง 40 กิโลเมตร อย่าวิ่งเร็วไปนะ ให้มันกินน้ำเยอะๆ”

บางคนวิจารณ์ว่า “การวิ่งแบบนี้โหดเกินไปสำหรับหมาน้อยๆ” แต่ฉีจี๋ก็ตอบว่า “ผมดูแลเจ้าเสี่ยวซาอย่างดีมาตลอดทาง มันได้กินดีกว่าผมอีก อย่างน่องไก่ย่าง ไข่ ถั่วลิสง”

บางคนถามถึงอนาคตของเสี่ยวซา? ฉีจี๋บอกว่า เคยคิดจะทิ้งมันไว้ที่ลาซา เคยคิดจะประกาศในเวยปั๋วหาคนที่ต้องการพามันเดินทางไปด้วย แต่ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจว่า “จะพามันกลับไปบ้านที่อู่ฮั่น เลี้ยงดูมันไปตลอดชีวิต”
กำลังโหลดความคิดเห็น