ซินหวา -กรณีเจ้าหน้าของรัฐยักยอกเงินหลวงเผ่นหนีไปเสวยสุขในต่างแดน และการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ได้กลายเป็นปัญหาที่ประชาชนให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น เชา เจี้ยนหมิง ผู้อำนวยการสำนักงานอัยการสูงสุด(Supreme People's Procuratorate/最高人民检察院) ได้รายงานต่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนเมื่อวันเสาร์(11 มี.ค.) ระบุว่าในปีที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของรัฐคอรัปชั่นยักยอกเงินหลวง 7,790 ล้านหยวน หรือ 38,950 ล้านบาท และสามารถตามจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ที่ต้องสงสัยเหล่านี้ 1,631 คน
กรณีคอรัปชั่นข้ามชาติขยายตัวตามกระแสเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัตน์ที่กำลังก้าวรุดอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจชาติมาก
“คอรัปชั่นข้ามชาติ ไม่เพียงก่อความสูญเสียแก่ประเทศชาติและภาคบริษัท ยังทำลายเศรษฐกิจโลก และเสถียรภาพสังคมอย่างมหาศาล กลายเป็น “มะเร็งร้ายข้ามชาติ” หวัง เหม่ยเจิน ผู้แทนประชาชนจาก Jiu San Society (九三学社)เมืองหนิงปัว กล่าว
สำนักงานอัยการจึงได้จัดตั้งกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศสำหรับการปราบปรามคอรัปชั่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามและป้องกัน “การคอรัปชั่น”ข้ามชาติ ได้แก่ การศึกษาวิจัยระเบียบวิธี/มาตรฐานการติดตามการหลบหนีและป้องกันการหลบหนี ขั้นตอนการดำเนินการระเบียบวิธีการต่างๆ สร้างกลไกความความร่วมมือที่สมบูรณ์
“ควรที่จะมีการผลักดันความก้าวหน้าในความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้กฎหมาย สนธิสัญญาระหว่างประเทศทั้งระดับทวิภาคี และพหุภาคี เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการปราบปรามการฟอกเงินข้ามชาติ ติดตามเงินหลวงที่ถูกยักยอกไป และรายได้จากการทุจริต กลับคืนมา และการตัดช่องทางในการนำเงินจากการคอรัปชั่นออกนอกประเทศ ก็เป็นการปิดทางหนีหรือหลบซ่อนตัวของพวกสิงห์คอรัปชั่นทั้งหลาย” เจ้า หลินจง ผู้แทนประชาชนกล่าวในที่ประชุมฯ.