เอเยนซี - สื่อจีนรายงานวันที่ 28 ก.พ. ว่ามีชายคนงานจีน ชาวก่วงตงคนหนึ่งเข้าพักหลับนอนในโรงแรมแล้วตื่นขึ้นมาพบว่า ไตข้างซ้ายของตนถูกผ่าออกไป และต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประชาชนหม่าชง ในก่วงตง
หนันฟางเดลี่ รายงานว่า นายซู่ (นามสมมติ) คนงานรายนี้ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประชาชน หม่าชง เมื่อคืนวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยเขาให้ข้อมูลว่า ได้เข้านอนที่โรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง แล้วตื่นขึ้นในเช้าของวันที่ 23 ก.พ. รู้สึกปวดท้อง ขณะเดียวกันก็พบเงินสด 20,000 หยวน อยู่ในกระเป๋า พอเปิดเสื้อดูจึงเห็นรอยเย็บที่ท้องของตนเอง รีบมาหาหมอทันที
แพทย์ของโรงพยาบาล ซึ่งปฏิเสธที่จะเผยชื่อผู้ป่วยรายนี้ ได้กล่าวกับไชน่าเดลี่ว่า ตกใจมากเมื่อเห็นไตนายซู๋หายไป จึงรีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที โดยซู่ให้ปากคำกับตำรวจเพียงว่า เขาจำอะไรไม่ได้เลย ในช่วงคืนก่อนเกิดเหตุนั้น และไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง ขณะที่แพทย์ดูลักษณะรอยแผลซึ่งเริ่มแห้งเมื่อตอนมาโรงพยาบาล ก็กล่าวว่าน่าจะเป็นการกระทำของมืออาชีพด้านนี้ แพทย์ยังกล่าวว่า "อาการของชายคนนี้ยังทรงๆ อยู่ แต่ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น"
ด้านนายซู่ เองนั้นดูเหมือนไม่ต้องการตอบคำถามอะไรกับตำรวจและแพทย์อีก ระหว่างนี้เขายังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล นอกจากอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์แล้ว ยังอยู่ในการอารักขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจตงก่วน ซึ่งต้องการสืบสวนขบวนการค้าอวัยวะ ซึ่งเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน
ในอีกด้านหนึ่ง สำหรับปริศนา "ไตหาย" นี้ ก็เริ่มมีหลายคนเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า นายซู่อาจรู้เห็นกับการขายไตของตัวเอง เพราะมีความเครียดหลังหางานทำในเมืองไม่ได้ จึงสร้างเรื่องเพื่อเลี่ยงความผิด แต่ต้องรอการสืบสวนเพิ่มเติม ขณะที่บิดาของคนงาน กล่าวกับสื่อจีนว่า ลูกชายของตนบอกว่าต้องการเดินทางไปหางานทำที่ก่วงตง แต่ไม่เคยได้ยินเขาพูดอะไรเกี่ยวกับว่าจะขายไตของตนเอง
ทั้งนี้ กฎหมายจีนลงโทษ ผู้ที่ผ่าตัดอวัยวะโดยปราศจากการยินยอมของคู่กรณี รุนแรงมาก มีโทษถึงประหารชีวิตฯ โดย ศาสตราจารย์เหรินเหวิน นักวิจัยด้านกฎหมายแห่งสถาบันสังคมศาสตร์จีนกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ว่า “ตลาดค้าอวัยวะเถื่อนทั้งในและนอกประเทศจีนขยายตัวอย่างมาก จึงต้องปรับแก้กฎหมาย เพื่อรับมือกับพวกค้าอวัยวะเถื่อนเหล่านี้”