เอเอฟพี - งบประมาณการป้องกันประเทศของจีนจะเพิ่มขึ้นสองเท่าในระหว่างช่วงปี 2554 ถึง 2558 ซึ่งรวมแล้วถือว่ามากกว่างบกลาโหมของทั้งเอเชียแปซิฟิกประเทศหลัก ๆ 12 ชาติ รวมกันเสียอีก
บริษัทวิจัยระดับโลกไอเอชเอส เผยผลคาดการณ์เมื่อวันอังคาร (14 ก.พ.) ระบุว่างบประมาณกลาโหมของจีนซึ่งอยู่ที่ 119,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่ผ่านมานั้น จะเพิ่มขึ้นเป็น 238,200 ล้านเหรียญฯในปี 2558 ซึ่งหมายถึงอัตราการเพิ่มต่อปีรวมอยู่ที่ 18.75 เปอร์เซ็นต์ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว
ตัวเลขงบฯ ในปี 2558 ของพญามังกรนั้นถือว่ามากกว่างบประมาณของ 12 ประเทศที่ใหญ่สุดในเอเชียแปซิฟิกรวมกันเสียอีกซึ่งน่าจะประมาณ 232,500 ล้านดอลลาร์ฯ และงบจีนก็จะมากกว่างบฯ กลาโหมของประเทศอันดับสองคือญี่ปุ่นถึง 4 เท่าในปีนั้นด้วย
ราจิฟ บิสวาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียแปซิฟิกของบริษัท ไอเอชเอสโกลบอลอินไซต์ เผยว่า “จีนได้เทงบประมาณมหาศาลเพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางทหารมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว และก็จะเป็นเช่นนี้ต่อไปต่อให้เศรษฐกิจแย่สักปานใดก็ตาม”
อัตราเติบโตของงบประมาณกลาโหมจีน ซึ่งเฉลี่ยจากปี 2543-2551 อยู่ที่ปีละ 12 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นประโยชน์ต่อโครงการต่าง ๆ อันจะช่วยสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของมหาอำนาจเศรษฐกิจใหญ่เอเชียอย่างจีนขยายตัวในอีก 3 ปีจากนี้ด้วย
จีนจะใช้เงินเพิ่มเพื่อซ่อมบำรุงปรับอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทันสมัย ขณะที่ลดกำลังคนลง ทำให้งบประมาณการใช้จ่ายต่อสมาชิกของกองทัพฯ แต่ละคนเพิ่มสูงขึ้นมากโข
นอกเหนือจากจีนและญี่ปุ่นแล้ว รายงานยังได้ติดตามงบการใช้จ่ายของอินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ไต้หวัน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และนิวซีแลนด์ด้วย
ซาราห์ แมคโดวัล หัวหน้านักวิจัยไอเอชเอสฝ่ายเอเชียแปซิฟิกเผยว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ หันมาให้ความสำคัญกับเอเชียแปซิฟิกอีกครั้ง ยิ่งเป็นโอกาสดีทำให้จีนมีข้ออ้างเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศ “
“การเพิ่มงบกลาโหมของจีนฯทำให้หลายชาติกังวล บางทีสิ่งสำคัญที่สุดอาจไปกระตุ้นให้สหรัฐฯพร้อมผนึกกำลังทางการทูตเพื่อเข้าถึงพื้นที่ในแปซิฟิกได้ด้วย”
“วอชิงตันกระตือรือร้นเพื่อให้มั่นใจในอิสรภาพการล่องเรือผ่านช่องทางเดินเรือสำคัญในภูมิภาค ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักต่อสถานการณ์ที่จีนพัฒนากองทหารด้วย” แมคโดวัล ย้ำ
ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯ พยายามหาทางตัดลดการใช้จ่ายทางทหารลงเพื่อบรรเทาภาวะกดดันทางการเงินนั้น แต่โอบามาก็ได้ลั่นว่าจะสนับสนุนอำนาจทางทหารของสหรัฐฯ ในเอเชีย ขณะที่หลายชาติก็ส่งเสียงกังวลว่าจะยิ่งทำให้จีนอ้างสิทธิขยายกองทัพมากขึ้นไปอีก