"กาลครั้งหนึ่ง ยังมีพี่น้องฝาแฝด "ฮาปะ" กับ "อวี้หลง (มังกรหยก)" ใช้ชีวิตสมถะสันโดษ อยู่ในหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำใส จนกระทั่ง มีปิศาจเข้ามาบุกรุกหมู่บ้าน พี่น้องฝาแผดจึงได้วาดกระบี่ต่อสู้กับปิศาจด้วยความกล้าหาญ ฮาปะสละชีวิตในการศึกนั้น ขณะที่อวี้หลง ยืนหยัดต่อสู้จนสามารถขับไล่ปิศาจพ้นไปจากหมู่บ้าน คืนความสงบสุขกลับมา และเพื่อให้หมู่บ้านแห่งนี้สุขสงบตลอดไป อวี้หลง เสียสละตนเอง เฝ้ายืนพิทักษ์หมู่บ้านจากปิศาจร้าย จวบกาลผันผ่าน นานตราบจนกระทั่งร่างของทั้ง ฮาปะ และอวี้หลง กลายเป็นสองภูผาใหญ่ โดยกระบี่ 13 เล่มของอวี้หลง ก็อิงฟ้ากลายเป็นยอดเขาตระหง่าน 13 ยอดแห่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อวี้หลงเสวี่ยซาน (หิมะมังกรหยก)"
นี่คือเรื่องเล่าขานปรัมปราเกี่ยวกับ "ภูเขาหิมะมังกรหยก" (อวี้หลงเสวี่ยซาน) 玉龙雪山 ของชนเผ่าน่าซี ชาวพื้นเมืองของลี่เจียง ที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบแถบนี้มานานนับพันปี ชาวน่าซีนับถือบรรพตศักดิ์สิทธิ์นี้ อันเป็นสถานที่ซึ่งสวยงามอย่างมหัศจรรย์ แห่งหนึ่งของจีน ปัจจุบันยังได้รับการเปรียบเปรยประดุจ "พิพิธภัณฑ์วิทยาฯ ธารน้ำแข็ง" เพื่อศึกษาศาสตร์เกี่ยวกับธารน้ำแข็ง น้ำแข็ง และปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกี่ยวกับน้ำแข็ง ยอดเขาซานสือโต่ว (扇子陡) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดนั้นมีความสูง 5,596 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทิวเขานี้อยู่ในลี่เจียง มีอาณาบริเวณยาวไกลมากกว่า 35 กิโลเมตร และกว้างถึง 20 ก.ม. มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ ทั้งหุบห้วย ธารน้ำ แนวผา และทุ่งหญ้า อุดมด้วยพันธุ์ไม้พุ่มกว่า 13,000 ชนิด ไม้ยืนต้นอีกกว่า 400 ชนิด นอกจากนั้นด้วยกายภาพเช่นนี้ ยังเป็นถิ่นของพืชสมุนไพรจำนวนราวกว่า 1 ใน 3 ของทั้งหมดในจีน
ชื่อของสถานที่นี้ เรียกขึ้นจากจินตนาการของผู้คนในสมัยโบราณ เมื่อมองดูทิวเขาจากระยะไกล เห็นคล้ายมังกร ขณะที่หิมะปกคลุมขาวโพลนนั้นดูราวกับหยกขาว ปัจจุบัน "อวี้หลงเสวี่ยซาน" ได้รับการสนับสนุนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์สำคัญอีกแห่งของจีน ขณะที่ทัศนีภาพของทุ่งกว้างก็ได้รับการอนุรักษ์คงสภาพเดิมไว้ โดยเฉพาะ "บึงมังกรดำ" (เฮยหลงถ่าน) ที่อยู่เคียงคู่กับภูเขา ก็ได้รับการยกย่องว่า เป็นจุดชมทัศนียภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด ในการสัมผัสความงดงามของ "อวี้หลงเสวี่ยซาน"