เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -บรรดาผู้นำแดนมังกร อาทิประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ตลอดจนคณะกรรมการประจำอีก 7 คนในกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นคณะผู้ปกครองสูงสุดของจีน ตบเท้าแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของนายคิมจอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สถานทูตของโสมแดงประจำกรุงปักกิ่งกันอย่างพรั่งพร้อม ขณะที่มีรายงานว่า รัฐบาลปักกิ่งทราบข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของนายคิมในวันเดียวกับที่เขาสิ้นลมหายใจ
จูงอัง (JoongAng) หนังสือพิมพ์ชั้นนำของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.) โดยอ้างแหล่งข่าวซึ่งไม่ระบุนามในกรุงปักกิ่งว่า เอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีเหนือได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิตของนายคิม และได้รายงานเรื่องนี้ให้รัฐบาลจีนทราบเมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา (17 ธ.ค.) อันเป็นวันเดียวกับที่นายคิมหัวใจวายตายบนรถไฟ ในขณะที่นานาชาติเพิ่งทราบเรื่องจากการประกาศของสถานีโทรทัศน์ทางการเกาหลีเหนือในวันจันทร์นี่เอง
นักวิเคราะห์ชี้ว่า หากรายงานข่าวนี้เป็นความจริงย่อมเป็นการยืนยันว่า จีนมีความสำคัญกับชาติคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และถูกประชาคมโลกไม่คบค้าสมาคมด้วยมากเพียงใด
ขณะที่นักการทูตจีนผู้หนึ่งกล่าวว่า จีนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือดีกว่าชาติอื่น ๆ
เขาชี้ว่า ความสามารถด้านข่าวกรองเกี่ยวกับโสมแดงของจีนเหนือชั้นกว่าก็เพราะจีนมีสถานทูตใหญ่ที่สุดในกรุงเปียงยาง มีการติดต่อภายในกับเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนืออย่างครอบคลุม นอกจากนั้นยังมีความเข้าใจการเมืองแบบคอมมิวนิสต์ดีกว่าชาติอื่นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สือ อิ้นหง ผู้เชี่ยวชาญกิจการเอเชียตะวันออกของมหาวิทยาลัยเหรินหมินมองว่า เป็นการพูดเกินความจริง ที่ว่า งานด้านข่าวกรองของจีนเหนือชั้นกว่าสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ แต่ที่จีนได้ทราบเรื่องดังกล่าวก่อนใครน่าจะเป็นผลมาจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีหูได้ตกลงกับท่านผู้นำคิมว่า จีนกับเกาหลีใต้ควรมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างถูกเวลา เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ หลังจากเกิดความผิดพลาดทางการทูตระหว่างกันมาแล้วหลายครั้ง
อนึ่ง เมื่อประธานาธิบดีลี เมียงบักของเกาหลีใต้ออกเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นเมื่อสุดสัปดาห์นั้น นายคิมได้ลาจากโลกนี้ไปได้ราว 4 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่า ทั้งเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมทั้งสหรัฐฯ หาได้ระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย