เอเยนซี - กระทรวงพาณิชย์จีนเผย (14 พ.ย.) จะทำการเก็บภาษีป้องการการทุ่มตลาดและงัดมาตรการตอบโต้การอุดหนุนกับสินค้านำเข้าจำพวกยานพาหนะจากสหรัฐฯ ขณะที่วุฒิสมาชิกมะกันเต้นผาง ชี้จีนไม่สมควรทำเช่นนั้น เพราะขัดกับกฎฯ ขององค์การการค้าโลก
กระทรวงพาณิชย์จีนเผยในแถลงการณ์ระบุว่า “ภาษีดังกล่าวฯ จะนำมาบังคับใช้กับรถยนต์โดยสารและรถสปอร์ตเอนกประสงค์หรือ SUV ที่มีเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรขึ้นไป เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้วันพฤหัส (15 ธ.ค.)”
การตัดสินใจใช้มาตรการตอบโต้ของจีนจะส่งผลกระทบต่อบริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่ง ได้แก่ เจเนอรัล มอเตอร์, ไครสเลอร์ กรุ๊ป, บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง, เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูเอส อินเตอร์เนชั่นแนล, อเมริกัน ฮอนด้า มอเตอร์ และฟอร์ด มอเตอร์
การประกาศใช้มาตรการดังกล่าวทำให้สัมพันธ์ของปักกิ่งและวอชิงตันตึงเครียดขึ้นไปอีก ซึ่งแต่เดิมก็มีปัญหาคาราคาซังโต้แย้งกันไปมาอยู่แล้ว ตั้งแต่ประเด็นสินค้าตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ อาหารจำพวกเนื้อไก่ ไปยันเรื่องค่าเงินหยวนของจีน
สหรัฐฯเผยว่า “ผิดหวังมาก” กับการตัดสินใจของจีนเมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ที่ผ่านมา
“พวกเราจะร่วมหารือกันใหม่อีกครั้ง ทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสภาคองเกรส เพื่อตัดสินใจหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดต่อไป” โฆษกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
จีนเผยว่า ได้ทำการตรวจสอบสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จำพวกรถยนต์แล้วพบว่าทำให้ผู้ประกอบการรถยนต์ภายในของจีนเองต้องระทมขมขื่นกับค่าความเสียหาย เนื่องจากการทุ่มตลาดและการอุดหนุนของสหรัฐฯ
พาณิชย์จีนเผยว่า สำหรับมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดจะทำการเก็บภาษีในช่วงจาก 2.0 เปอร์เซ็นต์ ถึง 21.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันสำหรับภาษีตอบโต้การอุดหนุนสูงก็จะเก็บสุดอยู่ที่ 12.9 เปอร์เซ็นต์
วุฒิสมาชิกมะกันระเบิด จีนทำสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น วุฒิสมาชิกมะกันระดับแนวหน้า ทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต จากคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภานิติบัญญัติ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลด้านภาษีและการค้า เผย (14 ธ.ค.) ว่า “มาตรการเก็บภาษีทุ่มตลาดและการตอบโต้การอุดหนุนของจีนนั้นละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก”
“มาตรการของจีนถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง และเป็นการตอกย้ำให้โลกได้รู้ว่าจีนนั้นต้องการจะตอบโต้สหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าอื่น ๆ อย่างชัดเจน”
“พวกเรา (คณะกรรมาธิการฯ) เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐทำทุกทางเพื่อให้สามารถปกป้องสิทธิ์ของตนได้ หรืออาจใช้สิทธิ์ในระดับองค์การการค้าโลกก็จะต้องทำให้บรรลุให้ได้”
คาร์ล เลวิน วุฒิสมาชิกเดโมแครต ตัวแทนผู้ผลิตรถยนต์จากมิชิแกนก็บอกว่า การตัดสินใจของจีนนี้ไม่สมควร พร้อมร่วมกดดันให้รัฐบาลโอบามาชนกับจีนแบบไม่ยั้ง
“แทนที่จีนจะเลิกทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ครั้งนี้กลับยิ่งผิดซ้ำผิดซาก โดยเฉพาะผิดกฎ WTO ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่ประชาชนอเมริกันไปยันกฎการค้าโลกด้วย”
“ผมเรียกร้องอย่างแข็งขันให้รัฐบาลทำอะไรก็ได้ที่จำเป็น ผ่านช่องทางองค์การการค้าโลก และช่องทางอื่น ๆ ที่เป็นไปได้ เพื่อปกป้องแรงงานอเมริกันและผู้ผลิต” เลวินเผยในแถลงการณ์
สื่อรัฐบาลจีนเผยก่อนหน้านี้ว่า จำนวนรถยนต์นำเข้าที่มีผลต่อการตั้งกำแพงภาษีนั้นควรจะไม่เกิน 50,000 หน่วยต่อปี ซึ่งจำนวนดังกล่าวถือว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของจำนวนรถยนต์ที่ซื้อขายกันในตลาดแดนมังกร
จีนกลายเป็นประเทศที่มีตลาดรถยนต์ใหญ่สุดในโลกแซงหน้าสหรัฐฯไปเมื่อปี 2552
รถยนต์ที่ขายในจีนส่วนใหญ่ผลิตจากตลาดภายในประเทศผ่านการร่วมทุนระหว่างจีนและผู้ผลิตต่างชาติ ส่วนรถยนต์หรูไม่สามารถผลิตได้ยังคงต้องพึ่งพิงการนำเข้า
ยอดขายรถยนต์ในจีนเพิ่มขึ้นกว่า 32 เปอร์เซ็นต์เมื่อปีที่ผ่านมา ทุบสถิติจำนวน 18.06 ล้านคัน แต่ภาคผลิตรถยนต์ต่างเป๋ไปตาม ๆ กันหลังจากที่ปักกิ่งยกเลิกมาตรการกระตุ้นการขาย อาทิ มาตรการการละเว้นภาษีสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก
เศษซากความขัดแย้งอื่น
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้เรียกร้องให้องค์การการค้าโลกหรือ WTO เข้ามาตัดสินข้อขัดแย้งกับจีน กรณีที่จีนใช้มาตรการตอบโต้การทุมตลาด (Anti-dumping: AD) และมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) กับการนำเข้าเนื้อไก่สหรัฐฯ
นอกจากนั้น คณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกาลงคะแนนเสียงในเดือนนี้ ให้ดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบการอุปกรณ์พลังงานโซลาร์ของจีน ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาความโกรธเกรี้ยวจากจีน สื่อรัฐบาลจีนรายงานว่า สหรัฐฯกำลังมีอคติต้องการกีดกันทางการค้าสินค้าจีน
การตัดสินใจดังกล่าวทำให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สามารถดำเนินการตรวจสอบคำร้องจากบริษัทโซลาร์ของตนซึ่งนำโดย “โซลาร์เวิรลด์ อินดัสตรี อเมริกา” มีเนื้อหาว่า จีนทุ่มขายสินค้าจำพวกแผงโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เข้ามาในตลาดสหรัฐฯ ด้วยราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ทำให้สินค้าสหรัฐฯขายไม่ออก
การตรวจสอบของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งอาจนำมาสู่มาตรการตอบโต้การเก็บภาษีสินค้านำเข้ากับจีนนั้น ก็ได้ทำให้จีนตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันเช่นกัน โดยจีนประกาศเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า กำลังตรวจสอบว่าสหรัฐฯก็ให้การอุดหนุนบริษัทพลังงานหมุนเวียนของตนเองเหมือนกัน
นอกจากนั้นบรรดาวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ก็ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันให้กดดันปักกิ่งเกี่ยวกับค่าเงินหยวน ซึ่งถือว่าเป็นขวากหนามตัวฉกาจในความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แถลงเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า จีนยังคงอนุญาตให้เกิดการค้าอย่างเป็นธรรมในตลาดไม่เพียงพอ พร้อมสั่งให้จีนเพิ่มความรับผิดชอบในบัดนี้ แถลงการณ์นี้ส่งผลให้จีนโกรธเกรี้ยวและตอบโต้ผ่านสื่อกระบอกเสียงอย่างถึงพริกถึงขิง.