รอยเตอร์-ประธานาธิดีหู จิ่นเทากล่าวในที่ประชุมสุดยอดเอเปค ชี้จีนพร้อมเปิดกว้างการค้าการลงทุน และเดินหน้าการปฏิรูป แต่ก็หวังที่จะมี ‘เสียงใหญ่’ มากขึ้นในการตัดสินการแก้ไขปัญหาหรือกำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลก
ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ปราศรัยเมื่อวานนี้(12 พ.ย.) ในที่ประชุมสุดยอดเอเปค (APEC Summit) ซึ่งจัดขึ้นที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา หูกล่าวถึงการเจรจาการค้ารอบโดฮาขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ซึ่งกำลังถกเถียงกำหนดเขตการค้าเสรีนั้น เขาไม่เห็นด้วยกับมาตรฐานที่เข้มงวด ที่สหรัฐฯกำลังผลักดันผ่านข้อตกลงแพน-แปซิฟิก
หูได้กล่าวต่อผู้นำธุรกิจในการประชุมสุดยอดเอเปคซึ่งเป็นการประชุมประจำปี ว่าจีนได้สัญญาการเปิดเขตการค้าเสรีในภูมิภาค ทั้งข้อตกลงการค้าเสรีและข้อตกลงพหุภาคีต่างๆ ตลอดจนข้อตกลงทรานแปซิฟิก พาร์ทเนอร์ชิป (Transpacific Partnership) ซึ่งสหรัฐฯเป็นผู้นำในการผลักดัน ข้อตกลงเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญยิ่งยวดในการต่อต้านลัทธิปกป้องการค้า
แต่หูได้เน้นย้ำว่าการเจรจรารอบโดฮาจะเดินหน้าต่อไปพร้อมด้วยเป้าหมายการบรรลุข้อตกลงเร่งลดภาษีสินค้า ที่ผ่อนปรนภาษีการค้าและโควตาให้แก่ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด นอกจากนี้ธรรมาภิบาลทางเศรษฐกิจก็ควรสะท้อนการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของโลก ที่เปิดทางให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ มีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดวาระต่างๆ
“สำหรับจีนก็จะดำเนินการปฏิรูประบบเศรษฐกิจสากล และจัดระเบียบเศรษฐกิจที่เป็นธรรมและเท่าเทียมมากขึ้น พร้อมกับสร้างสมดุลในความร่วมมือเศรษฐกิจกับชาติอื่นๆ มีบทบาทมากขึ้นในองค์การเงินและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ” หูกล่าว
ด้านสหรัฐฯก็กำลังสร้างพันธมิตรทางการค้าในย่านแปซฟิก โดยกำหนดมาตรฐานที่สูงกว่ามาตรฐานของดับเบิลทียู
ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งแตกร้าว เนื่องจากความขัดแย้งต่างๆ ได้แก่ การที่สหรัฐฯขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน การขยายกองกำลังจีนในแปซิฟิก ประเด็นสิทธิมนุษย์ชน ค่าเงิน และการปฏิบัติทางการค้า
หูได้กล่าวปกป้องว่า จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา และยังต้องเผชิญปัญหาที่หนักหน่วง ได้แก่ การพัฒนาที่ง่อนแง่น ไม่สมดุล และความสามารถในการด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ก็ไม่แข็งแกร่ง
แต่หูก็พยายามเพลาความวิตกของต่างชาติ โดยสัญญาเปิดตลาด และการปฏิบัติที่เท่าเทียมแก่กลุ่มบริษัทต่างชาติ สัญญาว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมที่โปร่งใส มั่นคง และยุติธรรม แก่กลุ่มนักลงทุนในประเทศและต่างชาติ
“จีนจะลดการแทรกแซงของรัฐบาลในกิจกรรมเศรษฐกิจจุลภาค ปรัปรุงกลไกการกำกับดูแล และรับประกันว่าบริการต่างๆที่รัฐบาลจีนจัดให้แก่นักลงทุนนั้น จะมีมาตรฐาน ประสิทธิภาพ และโปร่งใส” หู กล่าว
แต่ขณะนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติซึ่งต้องพึ่งพิงตลาดจีนในการขยายผลกำไร ต่างบ่นว่าพวกเขายังเผชิญปัญหาจากการการเลือกปฏิบัติและกฎระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะระดับท้องถิ่น.