เอเยนซี - นายโดนัลด์ จาง ประธานบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าววิตกถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และเตือนว่าฮ่องกงอาจต้องรับผลพวงความถดถอย
นายโดนัลด์ จาง ประธานบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง กล่าววันที่ 9 พ.ย. ว่าเศรษฐกิจฮ่องกงในไตรมาสที่สามนี้ อาจไถลลง และอาจจะต้องเตรียมเผชิญกับผลพวงของวิกฤติหนี้ยุโรป
จาง กล่าวระหว่างเดินทางเยือนนิวยอร์คว่า อัตราการเติบโตในปีหน้าอาจอยู่ที่ร้อยละ 2 ซึ่งต่างจากปีนี้ ที่เขยิบมาถึงร้อยละ 5 และร้อยละ 7 เมื่อปีที่แล้ว
"ผมยังรู้สึกในแง่ร้ายไว้ก่อนเกี่ยวกับการเติบโตในระยะสั้นของเศรษฐกิจโลก" ผู้นำฮ่องกงกล่าวว่า "ผมเกรงว่าจะเกิดภาวะตลาดโลกถล่ม อาทิ ในยุโรป ซึ่งย่อมมีผลต่อทุกคนบนโลก และฮ่องกงก็ไม่อาจเลี่ยงได้"
จางยังกล่าวว่า "ขณะที่ปีนี้ทั้งปีมีแต่ความถดถอย ก็เป็นไปได้ที่จะต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายในอีกหลายไตรมาสทีเดียว"
ทั้งนี้ การประเมินของเขาเป็นผลพิจารณาจากสถาบันการเงินต่างๆ อาทิ HSBC และ Standard Chartered ได้ตัดลดความคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจของฮ่องกงทั้งในปีนี้และปีหน้า
นาย โหล่ว คาชุง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Bank of Communications ในฮ่องกง กล่าวว่า "เหมือนว่าฮ่องกงกำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงถดถอยแล้ว โดยมีระเบิดหลายลูกในยุโรปรออยู่ และสถานการณ์จะคล้ายกับปี พ.ศ. 2551
นิโคลัส ควาน หัวหน้าศูนย์วิจัยเศรษฐกิจตะวันออก ที่ Standard Chartered Bank กลับมองโลกในแง่ดีว่า ในเชิงเทคนิค อาจมีความถดถอย แต่การเติบโตที่แข็งแกร่งเมื่อต้นปี ก็ยังสามารถรักษาเสถียรภาพได้อยู่พอสมควร
"เราอาจจะเห็นผลเปรียบเทียบชัดในไตรมาสแรกปีหน้า แต่อย่างไรก็ดี ปีหน้า (2555) เราก็ยังเชื่อว่า จีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ 3 - 3.5"
ควาน กล่าวว่ายอดการส่งออกในเดือนกันยายน ซึ่งตกลงครั้งแรกในรอบสองปี อาจจะกลับคืนมาได้หลังตรุษจีนปีหน้า
รายงานข่าวกล่าวว่า นายจาง จะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนมิถุนายน โดยผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองเชื่อว่า ผู้สืบตำแหน่งต่อจากเขาจะเผชิญกับห้วงเวลาที่ยากลำบาก
ดร.หลี่ คุยไว่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยซิตี้ กล่าวว่า "ผู้จะมารับตำแหน่งผู้นำฮ่องกงคนต่อไป จะต้องคิดหนักก่อนจะให้คำมั่นกับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการสังคมต่างๆ โดยจะต้องแจงให้ชัดว่าจะบริหารงบประมาณอย่างไร เพราะเราคงต้องเตรียมพร้อมสำหรับฤุดูมรสุมการเงินการคลัง"
ด้านนายเฮนรี่ ถัง และ เหลิง ชุนยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ กล่าวว่า คงจะต้องเร่งสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ต่ำให้เพียงพอ โดยเหลิง กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ว่ารัฐบาลจะได้เตรียมห้องพักจำนวน 35,000 ห้องต่อปี เพื่อให้ทันกับความต้องการ และลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ