เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -- สถานกงสุลจีนในนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่นกำลังเจรจาต่อรองกับรัฐบาลญี่ปุ่นหลังจากชาวประมงจีนถูกเจ้าหน้าที่ยามฝั่งของญี่ปุ่นจับตัวไปทางชายฝั่งแถบตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ดังกล่าวเปรียบเสมือนเงาดำที่จะกร่อนสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่นในอีก 2 เดือนข้างหน้าให้หม่นหมองลง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เผยว่า มันจะไม่ร้ายแรงเท่าปีที่แล้ว ที่ญี่ปุ่นจับกุมไต้ก๋งเรือจีนโดยอ้างว่าขับเรือพุ่งชนเรือยามฝั่งของญี่ปุ่นใกล้กับเกาะเตี้ยวอี๋ว์ เมื่อเดือนก.ย.
เจ้าหน้าที่ยามฝั่งญี่ปุ่นเผยว่า พวกเขาจับกุมไต้ก๋งเรือจีนนามว่า จัง เทียนสยง เมื่อวันอาทิตย์ (6 พ.ย.) ใกล้กับเกาะโกโต ในทะเลจีนตะวันออก และตั้งข้อหาว่า ไม่ยอมให้ตรวจค้นและพยายามหลบหนี เรือยามฝั่งญี่ปุ่นพบว่าเรือของจังและอีกลำกำลังแล่นรุกล้ำน่านน้ำ จึงประกาศให้หยุดเรือ ทว่าเรือของจีนไม่ยอมหยุดทำให้ ต้องมีการกวดไล่เรือนานกว่า 4 ชม. จึงยอมหยุด
เรืออีกลำหนีไปได้ แต่เรือของจัง ระวาง 135 ตันนั้นถูกจับกุม จังถูกจับกุมและลูกเรืออีก 10 ชีวิตก็ถูกสอบปากคำ
จังอาจต้องรับโทษ จำคุก 6 เดือน หรือปรับเป็นเงิน 300,000 เยน หากพิพากษาว่ามีความผิดจริง
โฆษกสถานกงสุลจีนในนางาซากิเผยว่า พวกเขากำลังเจาจากับรัฐบาลญี่ปุ่นและกำลังคลี่คลายข้อเท็จจริง
เกียวโดรายงานคำกล่าวของ โอซามุ ฟูจิมูระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในการแถลงข่าววานนี้ (7 พ.ย.) ว่า กรณีนี้เป็นเรื่องปกติ ที่สามารถใช้กฎหมายภายในประเทศรับมือได้ พร้อมกันนั้นยังกล่าวว่า ญี่ปุ่นแจ้งไปยังจีนให้ทราบผ่านช่องทางทางการทูตเรียบร้อยแล้ว
แต่กระทรวงต่างประเทศจีนก็ยังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
เมื่อปีที่ผ่านปักกิ่งระงับการพบปะระดับรัฐมนตรีกับญี่ปุ่น ต่อกรณีที่ญี่ปุ่นอ้างว่าเรือประมงจีนพุ่งเข้าชนเรือลาดตระเวนของตน ต่อมาไต้ก๋งเรือจีนถูกจับกุมไว้ 81 วัน ความขัดแย้งดังกล่าวได้ชุดชนวนกลายเป็นปัญหาทางการทูตระหว่างสองมหาอำนาจเพื่อนบ้าน ญี่ปุ่นอ้างว่าหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว จีนไม่ยอมส่งวัตถุดิบในการผลิตสำคัญ อันได้แก่ธาตุหายากให้กับญี่ปุ่น เป็นเหตุให้บริษัทหลายแห่งของญี่ปุ่นขาดแคลนวัตถุดิบและตกที่นั่งลำบาก ขณะที่จีนเผยว่า มีนโยบายลดการส่งออกอยู่แล้ว มิได้กลั่นแกล้งทางการเมืองแต่ประการใด
ต่อมาความสัมพันธ์ทวิภาคีก็เริ่มดีขึ้น หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว สร้างคลื่นสึนามิซัดเข้าฝั่งญี่ปุ่นจนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รั่วเมื่อเดือนมี.ค.ต้นปีนี้
การแลกเปลี่ยนสัมพันธ์ของจีนและญี่ปุ่นกำลังมีการวางแผนในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นโยชิฮิโกะ โนดะ ซึ่งจะเยือนกรุงปักกิ่งในปลายเดือน ธ.ค.นี้ จะได้พบกับประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนในระหว่างการประชุมสุดยอดความร่วมเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก ฝ่ายรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น โคอิชิโร เกมบา จะเยือนปักกิ่งในวันที่ 22-23 พ.ย.นี้
หลิว เจียงหย่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งมหาวิทยาลัยชิงหวาเผยว่า อนาคตของสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นนั้น ขึ้นอยู่กับว่านายกญี่ปุ่นจะแก้ปัญหาด้านนโยบายที่มีต่อจีนอย่างไร
หยัง เป่าอวิ๋น ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ชี้ว่า เหตุการณ์ล่าสุดจะไม่ทำลายทวิภาคีมากนัก เพราะว่าเกิดเหตุในน่านน้ำของญี่ปุ่นชัดเจน
แต่หยัง ปั๋วเจียง ศาสตราจารย์ด้านญี่ปุ่นศึกษาแห่งสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมสมัยของจีน เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจนำมาซึ่งเงามืดในการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์
เกมบาได้แสดงความกังวลถึงการขยายตัวอำนาจทัพเรือจีน และกิจกรรมของจีนใกล้กับหมู่เกาะที่เกิดข้อพิพาท ส่วนโนดะยังกล่าวด้วยว่า ชาติอาเซียนควรจะทำงานร่วมกันเพื่อให้กลาโหมจีนยอมรับฟังกฎกติกา เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในทะเลจีนใต้
"แต่โนดะก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นมิตรกับจีนอย่างที่หลายคนคาด" หยัง ปั๋วเจียงเผย "การจับกุมล่าสุดก็เหมือนกับการเพิ่มน้ำแข็งให้แช่แข็งความสัมพันธ์อีก"
