เอเอฟพี - จีนและไต้หวันลงนามบรรลุข้อตกลงความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์และการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ณ นครเทียนจินแล้ววันนี้ (20 ต.ค.) หลังจากเห็นตัวอย่างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากสึนามิ แล้วก่อปัญหาในปีนี้
ภายใต้การลงนามข้อตกลงดังกล่าวนั้น ตัวแทนจากทั้งสองฝ่ายได้เข้ามาเจรจาในมหานครเทียนจิน ซึ่งติดตามด้วยเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานทั้งสองฝ่าย โดยกำหนดว่า หากแต่ละฝ่ายเกิดภัยพิบัติ อีกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันจำกัดวงความเสียหายทันที
เหตุการณ์แผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ เมื่อ 11 มี.ค. สร้างคลื่นสึนามิลูกใหญ่ซัดเข้าญี่ปุ่น ทำให้ระบบหล่อเย็นของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถูกทำลาย ทำให้เกิดรังสีรั่วไหลออกมา ส่งผลให้ต้องอพยพผู้คนนับหมื่น เป็นเหตุการณ์ตัวอย่างที่ทำให้จีนและไต้หวันตระหนักถึงความร่วมมือนี้
เจ้าหน้าที่ไต้หวันเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ความร่วมมือฯ นี้ถือว่าจำเป็น เพราะว่าโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ของจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งอยู่ทางแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งห่างจากไต้หวันเพียง 100-200 กม. เท่านั้น
นายเฉิน อวิ๋นหลิน ตัวแทนจากสมาคมเชื่อมสัมพันธ์ช่องแคบไต้หวันของจีนแผ่นดินใหญ่ เผยว่า “ความปลอดภัยด้านพลังงานนิวเคลียร์นั้นสำคัญต่อชีวิตร่างกายของประชาชนทุกคนทั้งสองฝั่งของช่องแคบไต้หวัน และจะกระทบต่อองค์รวมของสิ่งแวดล้อมด้วย”
ทั้งสองฝั่ง (จีน-ไต้หวัน) ยังคาดหวังว่าจะได้พูดคุยถึงข้อตกลงที่ยืดเยื้อเรื่องการปกป้องการลงทุน ซึ่งมีกำหนดลงนามมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทว่าล้มเหลวในครั้งนั้น
ไต้หวันเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในจีนในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เฉพาะด้านธุรกรรมการเงินก็มีมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว
ไต้หวันและจีนแบ่งแยกการปกครองกันมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2492 เมื่อเจียงไคเช็กพ่ายให้กับพรรคคอมมิวนิสต์ จนต้องถอยลงมาไต้หวัน ใช้ชื่อสาธารณรัฐจีนตราบเท่าปัจจุบัน แต่จีนยังคงมองว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตนที่รอการหวนคืน หากจำเป็นอาจใช้กำลังทหารเป็นทางเลือกในการรวมชาติ
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของสองฝ่ายค่อยขยับตัวดีขึ้นเมื่อหม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋ง ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2552 จีนและไต้หวันค่อยมีการเจรจาและลงนามข้อตกลงด้านเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และการท่องเที่ยวฯ