จีนยกระดับสนง.ไต้หวันในฮ่องกง มาเก๊า กระชับสัมพันธ์แน่นขึ้นอีก

เอเอฟพี - ไต้หวันประกาศเมื่อวันพุธ (20 ก.ค.) ว่า ขณะนี้จีนได้ยกสถานะสถานกงสุลโดยพฤตินัยของไต้หวันประจำฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าครั้งประวัติการณ์ นักวิเคราะห์เชื่อ สัมพันธ์จีน-ไต้หวันอบอุ่นขึ้น

รัฐบาลฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน ในสัปดาห์นี้ได้เปลี่ยนชื่อพร้อมยกระดับสถานะสำนักงานผู้แทนของไต้หวันแล้ว แม้ว่าหลักการของจีนยังยืนยันว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของประเทศจีนก็ตาม

ไหล ซินหยวน ประธานหญิงสภากิจการแผ่นดินใหญ่ อันเป็นองค์กรกำหนดนโยบายเกี่ยวกับจีนของไต้หวัน บอกกับผู้สื่อข่าว ณ งานพิธีในฮ่องกง เมื่อวันพุธ (20 ก.ค.)

“ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้” เธอกล่าว

ชื่อของสำนักงานรัฐบาลไต้หวันในฮ่องกง เปลี่ยนจากชื่อเดิม “จงหัวทราเวล เซอร์วิส” เป็น “ไถเป่ย อิโคโนมิค แอนด์ คัลเจอรัล ออฟฟิศ” (สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป)

ส่วนในมาเก๊า เจ้าหน้าที่ไต้หวันได้เข้าร่วมพิธีคล้ายกันเมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) โดยมีการเปลี่ยนชื่อสำนักงานเดิมตั้งแต่ในสมัยโปรตุเกสยึดครอง จากชื่อ “สำนักงานการค้าและการท่องเที่ยวไทเป” มาเป็น “สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป” เช่นเดียวกับในฮ่องกง

ก่อนหน้าที่ได้มีการถกเถียงกันมา 8 เดือน จึงสัมฤทธิ์ผล อย่างไรก็ตามฮ่องกงและมาเก๊าต่างมีแผนที่จะไปตั้งสำนักงานด้านเศรษฐกิจการค้าและวัฒนธรรมที่กรุงไทเปด้วย

ผู้นำจีนคณะชาตินำโดยเจียง ไคเช็ก พ่ายแพ้สงครามกลางเมืองในจีนเมื่อปี 2492 และได้ถอยร่นมาจัดตั้งรัฐบาลแยกต่างหากที่เกาะไต้หวัน ขณะที่ผู้นำคอมมิวนิสต์จีนยืนยันมาตลอดว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และจะต้องกลับมารวมชาติกัน

ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและแผ่นดินใหญ่ผ่อนคลายลงนับแต่หม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋งขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อปี 2551 ได้บรรลุข้อตกลงเปิดการเชื่อมโยงติดต่อกันโดยตรง หลังจากที่การติดต่อระหว่างช่องแคบไต้หวันต้องผ่านดินแดนที่สามมาเกือบ 60 ปี และมีการทำข้อตกลงกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าครั้งประวัติการณ์ กระชับความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน

โจเซฟ เฉิง ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยซิตี้ ของฮ่องกง เผยว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะเอื้อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมกับทั้งฮ่องกงและไต้หวัน

“ความคืบหน้าในสัมพันธ์ครั้งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของการผูกสัมพันธ์ครั้งใหญ่ก็ว่าได้” เฉิงกล่าว

เฉิงชี้ด้วยว่า “ความก้าวหน้าในครั้งนี้แน่นอนว่าเป็นความเห็นชอบของปักกิ่งด้วย”

แม้ว่าสัมพันธ์จีน-ไต้หวันด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจะคืบหน้า แต่ด้านการทหารยังคงมีปัญหา เมื่อวันอังคาร (18 ก.ค.) ไต้หวันเผยในรายงานกลาโหมประจำปีว่า ภัยคุกคามจากการสั่งสมและพัฒนาศักยภาพของกองทัพจีนต่อไต้หวัน เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน