นายกเวินฯ พอใจ “หยวน” มีเสถียรภาพ ไม่สนเสียงเพรียกจากอินทรี

เอเยนซี - นายเวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เผยว่า เขาพอใจกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของสกุลเงินหยวนที่มีเสถียรภาพเป็นพื้นฐานเช่นนี้ ขณะที่คู่ค้ารายใหญ่ของจีนอย่างสหรัฐฯกำลังส่งเสียงเรียกร้องให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวนมิเว้นวาย

สำนักข่าวซินหวารายงานว่า “นายกเวินฯ กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันศุกร์ (14 ต.ค.) ในการเปิดงานมหกรรมนำเข้าส่งออกสินค้าในก่วงโจว”

จีนปกปักรักษาระบบแลกเปลี่ยนเงินตราของตัวเอง พร้อมกับเผยว่า จีนกำลังขยับปรับเปลี่ยนให้เงินหยวนนั้นมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นแบบ “ทีละเล็กละน้อย”

ค่าเงินหยวนของจีนปรับตัวขึ้นกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ต่อดอลลาร์ นับแต่กลางปี 2553 เป็นต้นมา นับแต่จีนเลิกตรึงค่าเงินหยวนกับดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 ทำให้เงินหยวนอ่อนค่า เพื่อช่วยเหลือภาคการส่งออกของจีนตราบจนเข้าสู่ช่วงวิกฤติการเงินโลกในปี 2551

ผลกระทบที่ตามมาก็คือเสียงบ่นวิจารณ์จากฝั่งสหรัฐฯและอีกหลายฝ่าย ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จีนตรึงค่าเงินหยวนให้ต่ำกว่าความเป็นจริงถึง 30 เปอร์เซ็นต์

ผู้ส่งออกจีนกำลังกังวลว่า กำไรหน่วยสุดท้ายของพวกเขากำลังถูกบีบให้ลดลงจากการแข็งค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น ค่าแรงที่แพงขึ้น และเงินเฟ้อที่เหนือคาด ระดับ 6 เปอร์เซ็นต์ เหล่านี้ทำให้บรรดาผู้ประกอบการล้มหายตายจากกันระเนระนาด

อย่างไรก็ตามค่าเงินหยวนที่ค่อย ๆ แข็งค่าขึ้นทีละนิดนั้นก็ชะงักงันในช่วงกลางเดือนส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ค่าเงินยูโรของยุโรปอ่อนค่าลง เนื่องจากยุโรปกำลังเผชิญวิกฤติหนี้

สหรัฐฯ ซึ่งเสียเปรียบดุลการค้าให้จีนมากเป็นประวัติการณ์ถึง 29,000 ล้านดอลลาร์ ในเดือนส.ค. ก็ได้เรียกร้องให้จีนขึ้นค่าเงินหยวนอย่างรวดเร็วที่สุด

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นางฮิลลารี คลินตัน เผยเมื่อวันศุกร์ (14 ต.ค.) ด้วยว่า มันถึงเวลาแล้วที่พวกเรา (สหรัฐฯและพันธมิตร) จะต้องยืนขึ้นกดดันให้ปักกิ่งขึ้นค่าเงินหยวนของตัวเองได้แล้ว

นางคลินตันเผยหลังจากกล่าวสุนทรพจน์ในมหานครนิวยอร์กว่า จีนยังคงเล่นเกมกับระบบการเงินเพื่อผลประโยชน์ของจีน และทำให้เรา (มะกัน) เสียประโยชน์

แม้ว่า ทำเนียบขาวของสหรัฐฯจะมีความเห็นแตกต่างกัน แต่เมื่อวันอังคาร (11 ต.ค.) สภาสูงของสหรัฐฯก็ได้ผ่านร่างกฎหมายลงโทษโดยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน หากจีนไม่ยอมปรับขึ้นค่าเงินหยวน