xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำจีนชี้พรรคคอมมิวนิสต์คือทายาทที่แท้จริงของการปฏิวัติซินไฮ่

เผยแพร่:   โดย: สุรัตน์ ปรีชาธรรม

การประชุมใหญ่ของผู้นำคอมมิวนิสต์จีนรำลึกการปฏิวัติซินไฮ่ ครบรอบปีที่ 100 ที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่งวันที่ 9 ต.ค. 2554 การปฏิวัติซินไฮ่ ปี 1911 ได้เลิกระบอบสมบูรณณาญาสิทธิราชย์ ล้มล้างยุคราชวงศ์จักรพรรดิจีนที่สืบทอดมานับพันๆปี และสถาปนาสาธารณรัฐจีน(ภาพเอเอฟพี)
ASTVผู้จัดการออนไลน์—ปี ค.ศ. 1911 (พ.ศ. 2454) ซึ่งอยู่ในช่วงปีซินไฮ่ตามปฏิทินจันทรคติจีน นับเป็นปีที่ทรงความสำคัญยิ่งใหญ่ของแผ่นดินจีน ด้วยเป็นปีแห่งชัยชนะของการปฏิวัติซินไฮ่ การปฏิวัติครั้งพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน โดยเลิกระบอบสมบูรณณาญาสิทธิราชย์ ล้มล้างยุคราชวงศ์จักรพรรดิจีนที่สืบทอดมานับพันๆปี และสถาปนาสาธารณรัฐจีน (Republic of China) ผู้นำการปฏิวัติคนสำคัญคือ ดร.ซุน จงซัน หรือซุน ยัตเซ็น (1866-1925) ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกแห่งสาธารณรัฐจีน ปกครองประเทศด้วยลัทธิไตรราษฎร์ ได้แก่ 1)หลักประชาชาติ หรือชาตินิยม ให้ความสำคัญคือการให้ความเสมอภาคแก่ชนทุกเชื้อชาติ และยกเลิกการแบ่งแยกกีดกันทางเชื้อชาติ 2) หลักประชาสิทธิ หรือ ประชาธิปไตย คือการทำตามหลักการปกครองโดยประชาชน โดยผ่านกลไกทางรัฐธรรมนูญแบบตะวันตก ที่กำหนดให้เสียงข้างมากของตัวแทนประชาชนในสภาเป็นผู้ตัดสิน 3) หลักประชาชีพ หรือหลักเพื่อชีวิตประชาชน คือการที่มุ่งให้ประชาชนได้กินดีอยู่ดีมีสวัสดิการ มีความมั่นคงในชีวิต และประชาชนจะต้องมีปัจจัยในการดำรงชีวิตอย่างเพียงพอ

ชื่อ 'สาธารณรัฐจีน' ถูกลบออกจากแผ่นดินใหญ่ในปี 1949 เมื่อผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ชนะการต่อสู้สงครามกลางเมืองกับพรรคจีนคณะชาติหรือกั๋วหมินตั่ง (ก๊กมินตั๋ง) และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นมาแทนที่ ปกครองประเทศด้วยระบบสังคมนิยม ขณะเดียวกัน ผู้นำกั๋วหมินตั่ง นำโดยเจี่ยง เจี้ยสือ หรือเจียง ไคเช็ค ก็ได้นำกำลังถอยร่นไปตั้งหลักที่เกาะไต้หวัน และจัดตั้งรัฐบาลแยกต่างแยก โดยยังใช้ชื่อสาธารณรัฐจีนมาถึงปัจจุบัน ขณะที่ผู้นำคอมมิวนิสต์ในปักกิ่งยึดถือมาตลอดว่าไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีนที่จะต้องกลับมารวมชาติกันในที่สุด

ทั้งผู้นำคอมมิวนิสต์แห่งแผ่นดินใหญ่ และผู้นำไต้หวัน ต่างเชิดชูซุน จงซัน เป็นบิดาแห่งประเทศจีนยุคใหม่
ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา แถลงสุนทรพจน์ในโอกาสครบรอบ 100 ปี การปฏิวัติซินไฮ่ ที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่งวันที่ 9 ต.ค. 2554 (ภาพเอเอฟพี)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้นำจีนได้เปิดการประชุมใหญ่ “รำลึกการปฏิวัติซินไฮ่ ครบรอบ 100 ปี” โดยมีบรรดาผู้นำสูงสุดแห่งพรรคคอมมิวนิสต์มาร่วมพิธีอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ได้แก่ เลขาธิการพรรคฯและประธานาธิบดี หู จิ่นเทา อดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ประธานรัฐสภา อู๋ ปังกั๋ว นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า จย่า ชิ่งหลิน หลี่ ฉังชุน สี จิ้นผิง หลี่ เค่อเฉียง เฮ่อ กั๋วเฉียง และโจว หย่งคัง โดยฉากหลังได้ติดภาพขนาดใหญ่ของซุน จงซัน และปี 1911- 2011

ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี การปฏิวัติซินไฮ่ ยืนยันว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ ทายาทผู้สืบทอดอุดมการณ์การปฏิวัติที่แท้จริงของการปฏิวัติซินไฮ่ ที่นำโดยซุน จงซัน

ผู้เขียนขอเก็บความสาระสุนทรพจน์ของหู จิ่นเทา ในที่ประชุมใหญ่รำลึก 100 ปี การปฏิวัติซินไฮ่ ซึ่งแบ่งเป็นสี่ประเด็น เพื่อให้เห็นถึงมุมมองการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของผู้นำคอมมิวนิสต์จีน

การปฏิวัติซินไฮ่ได้พลิกโฉมสังคมจีน
เมื่อ 100 ปี ที่แล้ว ซุน จงซันได้เป็นตัวแทนของกลุ่มก่อการปฏิวัติที่สร้างความตกตะลึงแก่โลก เปลี่ยนแปลงสังคมจีนใหม่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ดังนั้น ในวันครบรอบ 100 ปี ผู้นำจีนจึงได้จัดพิธีใหญ่ระลึกถึงคุณูปการของซุน จงซัน และการอุทิศแห่งประวัติศาสตร์ของผู้บุกเบิกแห่งการปฏิวัติซินไฮ่ ซึ่งผู้นำรุ่นหลังจะต้องศึกษาและแพร่ขยายจิตวิญญาณอันสูงส่งของนักปฏิวัติเหล่านี้

หลังสงครามฝิ่นปี 1840 ประเทศจีนถูกบีบคั้นจนกลายเป็นรัฐกึ่งสังคมศักดินาและกึ่งอาณานิคม ชาติตะวันตกเข้ามาย่ำยีและนำกำลังเข้ารุกราน การปกครองระบอบศักดินาฟอนเฟะเต็มไปด้วยคอรัปชั่นและไร้ประสิทธิภาพ แผ่นดินจีนเต็มไปด้วยไฟสงคราม ประชาชนอดอยากหิวโหย การปฏิวัติซินไฮ่ เป็นการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาวจีน กอบกู้ประเทศชาติ และประกันอนาคตความอยู่รอดของจีน

ซุน จงซัน เป็นวีรบุรุษชนชาติจีนผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักลัทธิชาตินิยมผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้บุกเบิกที่ยิ่งใหญ่แห่งการปฏิวัติประชาธิปไตยจีน

การปฏิวัติซินไฮ่ได้ล้มการปกครองของราชวงศ์ชิง ยุติการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่สืบทอดมานับพันๆปี เผยแพร่ระบอบสาธารณรัฐ พลิกโฉมสังคมจีนยุคใกล้ด้วยพลังสั่นสะเทือนอันยิ่งใหญ่และอิทธิพลที่ล้ำลึก

ความปรารถนาของซุน จงซัน ได้บรรลุหรือกำลังกลายเป็นความจริง
หู จิ่นเทา กล่าวต่อว่า ในปี 1921 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ถือกำเนิดขึ้นโดยได้ผสมผสานลัทธิมาร์กซิสต์-ลัทธิเลนิน และการเคลื่อนไหวชนชั้นกรรมาชีพจีนเป็นหลักทฤษฎีแนวทางของพรรคฯ และคือพรรคคอมมิวนิสต์นั่นเองที่เป็นผู้สนับสนุนภารกิจการปฏิวัติของซุน จงซันที่มั่นคงที่สุด เป็นผู้ร่วมมือที่ใกล้ชิดที่สุด เป็นผู้สืบทอดฯที่ภักดีที่สุด

การฟื้นฟูประชาชาติจีนพบหนทางที่ถูกต้อง
การบรรลุถึงหนทางการฟื้นฟูอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน ได้ใช้ทั้งลัทธิมาร์กซิสต์-ลัทธิเลนิน หลักทฤษฎีเหมา เจ๋อตง ทฤษฎีเติ้ง เสี่ยวผิง และหลักทฤษฎีสามตัวแทน ซึ่งล้วนเป็นแนวคิดสำคัญเป็นหลักชี้นำ ทั้งยังคงสืบทอดแนวคิดการปลดแอก ยืนหยัดการปฏิรูปเปิดกว้าง ผลักดันการพัฒนาที่เป็นวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมความสมานฉันท์ของสังคม

การบรรลุถึงการฟื้นฟูที่ยิ่งใหญ่ จะต้องยืนหยัดในลัทธิสังคมนิยมแบบจีน ประวัติศาสตร์ 100 ปีหลังการปฏิวัติซินไฮ่ ได้พิสูจน์การฟื้นฟูอันยิ่งใหญ่ของชนชาติจีนนั้นจะต้องดำเนินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องและพลังใจกลาง และในที่สุดประชาชาติจีนก็ได้พบเส้นทางที่ถูกต้องและพลังใจกลาง โดยเส้นทางที่ถูกต้องคือลัทธิสังคมนิยมแบบจีน และพลังใจกลางก็คือพรรคคอมมิวนิสต์จีน

การฟื้นฟูอันยิ่งใหญ่ฯยังต้องยืนหยัดในลัทธิชาตินิยม ดังที่ประวัติศาสตร์ 100 ปี การปฏิวัติซินไฮ่ได้พิสูจน์แล้วว่าลัทธิชาตินิยมคือใจกลางของจิตวิญญาณประชาชาติจีน
ประธานาธิบดีหม่า อิ่งจิ่วแห่งไต้หวันแสดงท่าทางระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ครบรอบ 100 ปี การปฏวัติซินไฮ่ บนเวทีหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในนครไทเป ไต้หวัน วันที่ 10 ต.ค. 2554 โดยหม่ากล่าวว่าการรวมชาติยังไม่ใช่วาระในขณะนี้ (ภาพเอเอฟพี)
ไม่อาจรวมชาติ ก็จะยิ่งอันตราย
ปณิธานของซุน จงซัน และนักบุกเบิกแห่งการปฏิวัติซินไฮ่ เป็นสิ่งที่พี่น้องร่วมชาติสองฝากฝั่งควรดำเนินตาม แผ่นดินใหญ่และไต้หวันคือพี่น้องร่วมชาติสองฝากฝั่ง คือครอบครัวเดียวกัน

ซุน จงซันได้กล่าวว่า “การรวมเป็นหนึ่งเดียว” คือความหวังของชาวจีนทั้งหมด หากไม่อาจรวมเป็นหนึ่งเดียว ก็จะยิ่งอันตราย ดังนั้นจะต้องขยายกำลังในการต่อต้าน “อิสรภาพไต้หวัน” และยึดถือ ‘ฉันทามติ 1992’*

ไต้หวันฉลองใหญ่ 100 ปี ซินไฮ่ แสดงแสนยานุภาพกองกำลัง
สื่อตะวันตกได้รายงานคำแถลงสุนทรพจน์ครบรอบ 100 ปี ปฏิวัติซินไฮ่ของหู จิ่นเทา โดยพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการรวมชาติจีนและไต้หวัน และในวันจันทร์ที่ 10 ต.ค. ประธานาธิบดีหม่า อิ่งจิ่วแห่งไต้หวัน ก็ได้แถลงสุนทรพจน์ วันชาติไต้หวัน ควบวาระครบรอบ 100 ปีการปฏิวัติซินไฮ่ โดยพุ่งประเด็นโต้ตอบจีนไปว่า การรวมชาติกับจีนไม่ใช่วาระในขณะนี้ “เรายังคงรักษาสถานภาพเดิมของการไม่รวมชาติ ไม่มีอิสรภาพ และไม่มีการใช้กำลัง”
การแสดงการบินของทีม Thunder Tiger Aerobatic เหนือทำเนียบประธานาธิบดีในนครไทเป ระหว่างงานฉลองครบรอบ 100 ปี การปฏวัติซินไฮ่ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. (ภาพเอเอฟพี)
ขณะที่จีนเปิดการประชุมใหญ่จัดพิธีรำลึกครบรอบ 100 ปี การปฏิวัติซินไฮ่ โดยไม่มีกิจกรรมเฉลิมฉลองอื่นๆ ด้านไต้หวันได้จัดขบวนแห่แสดงกิจกรรมต่างๆกันคึกคัก ที่ขาดเสียไม่ได้คือ ขบวนแห่แสดงแสนยานุภาพกองกำลัง

ทั้งนี้ ผู้นำจีนซึ่งถือไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของจีน เคยลั่นวาจาว่าอาจต้องใช้กำลังเพื่อรวมชาติหากจำเป็น.

*ปีซินไฮ่ในปฏิทินจันทรคติของจีน ตรงกับช่วงปี ค.ศ. 1911-ต้นปี 1912

*จีนและไต้หวันได้ตกลงฉันทามติ (The 1992 Consensus) รับรอง “หลักการจีนเดียว” One-China Principle ที่ฮ่องกงเมื่อปี 1992
ขบวนแห่ระบำมังกรจัตุรัสหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในนครไทเป ระหว่างงานฉลองครบรอบ 100 ปี การปฏวัติซินไฮ่ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. (ภาพเอเอฟพี)
อาหมวยสวมชุดลายธงชาติไต้หวันโชว์การแสดงที่จัตุรัสหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในนครไทเป ระหว่างงานฉลองครบรอบ 100 ปี การปฏวัติซินไฮ่ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. (ภาพเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น