เอเยนซี - นายจง ชาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการนำเข้าและการส่งออกอย่างเท่าเทียมกัน
นายจง กล่าวระหว่างการประชุมด้านการนำเข้าซึ่งจัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 31 ก.ย. ว่า ตั้งแต่จีนเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) และการนำเข้าก็มีบทบาทในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วและมั่นคง แต่นโยบายการนำเข้าของจีนยังต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างการนำเข้าของประเทศให้เหมาะสมยิ่งกว่านี้ โดยรัฐบาลจีนกำลังพิจารณาใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องกับภาษี และวิธีการที่จะเพิ่มช่องทางหมุนเวียนการนำเข้าในประเทศและการส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้า (การค้า)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมของประเทศ และสร้างความสมดุลของการค้า
ในขณะที่วิกฤติหนี้ทั่วโลก ส่งผลด้านลบต่อความต้องการสินค้าจีนและส่งออก"การขยายการนำเข้าจะสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในประเทศ" นายจงกล่าวและว่า "ขณะเดียวกันประเทศก็มุ่งมั่น ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างการจัดการนำเข้า และการนำเข้าเทคโนโลยีอุปกรณ์ทรัพยากร และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ทันสมัยมากขึ้นใน 5 ปีถัดไป"
"หากไม่ขยายการนำเข้า จีนคงไม่สามารถรักษาดุลการค้าระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน" นายจงกล่าว
ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่การปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจของจีน การส่งออกมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ จนสามารถแซงเยอรมนีเป็นผู้ส่งออกใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2552
ล่าสุดในแผนห้าปี สมัยที่ 12 (พ.ศ. 2554-2568) ประเทศจะให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลการนำเข้าและการส่งออก โดยด้านหนึ่งขยายการนำเข้าสินค้าที่มีเทคโนโลยีสูงและพลังงาน และอีกด้านก็เพิ่มการนำเข้าจากบรรดาประเทศที่ขาดดุลการค้ากับประเทศจีนอยู่